วิจัยจีนเผย พบเชื้อโคโรนาไวรัสในตัวอย่างน้ำอสุจิผู้ป่วย COVID-19 ยังไม่ชัด ติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ รวมทั้งจะมีผลต่อการสืบพันธุ์ของเพศชายไหม
#covid19 #โควิด19 #coronavirus
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เว็บไซต์เดอะการ์เดียน และซีบีเอสนิวส์ เผยรายงานผลการวิจัยใหม่จากประเทศจีน ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงวารสารการแพทย์ The Journal of the American Medical Association โดยทีมนักวิจัยพบ Sars-CoV-2 หรือ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ในตัวอย่างน้ำอสุจิของกลุ่มผู้ป่วยโควิด 19 ชาย จำนวน 6 ราย ในกลุ่มผู้ป่วย 38 ราย ที่โรงพยาบาลเทศบาลเมืองซางฉิว ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน
อย่างไรก็ดี ทางทีมนักวิจัย กล่าวว่า การค้นพบดังกล่าวนี้เป็นเพียงข้อมูลขั้นต้น และจากจำนวนกลุ่มตัวอย่างผู้ติดเชื้อเพียงเล็กน้อย จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อศึกษาว่าการมีเพศสัมพันธ์จะมีผลต่อการแพร่ระบาดของ COVID 19 หรือไม่
“หากสามารถพิสูจน์ได้ว่า Sars-CoV-2 สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้… นั่นอาจเป็นส่วนสำคัญในการป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพิจารณาความจริงที่ว่า Sars-CoV-2 ถูกตรวจพบในน้ำอสุจิของผู้ป่วยที่ฟื้นตัว” ทีมวิจัย กล่าว
ด้านอัลลัน พาซีย์ ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านแอนโดรโลจี (Andrology) ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับเพศชาย จากมหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์ ในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ผลการศึกษากลุ่มตัวอย่างไม่ควรถูกมองว่าเป็นข้อสรุป การพบโควิด-19 ในน้ำอสุจิ ไม่ได้แสดงว่ามันมีการทำงานและสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้ และไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่า เชื้อสามารถติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ การพบโคโรนาไวรัสในน้ำอสุจินั้น ไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจนัก เนื่องจากไวรัสชนิดอื่นก็สามารถพบได้ในน้ำอสุจิ เช่น อีโบล่า (Ebola) และ ซิก้า (Zika)
เช่นเดียวกับ ชีน่า เลวิส ศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ของมหาวิทยาลัยควีนเบลฟาส์ต กล่าวเน้นว่า วิจัยดังกล่าวนี้เป็นการศึกษาที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาขนาดเล็กอื่น ๆ ที่แสดงผลการพบ Sars-CoV-2 ในระดับต่ำ หรือไม่มีเลย รวมทั้งผลระยะยาวของเชื้อไวรัสดังกล่าว ต่อการสืบพันธุ์ของเพศชาย ก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด