พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณภูมิสูงสุด 42 องศาเซลเซียส มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ทุกภาคทั่วประเทศ
วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวัน ระบุว่า ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนบางแห่งในระยะนี้
อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตรา มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นและจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน ซึ่งจะส่งผลทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 6 – 9 พฤษภาคม 2563
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม ถึง 06.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม ดังนี้
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37 – 41 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 26 – 28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 38 – 41 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคกลาง
อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 26 – 29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 38 – 42 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆเป็นบางส่วน กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34 – 36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34 – 37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 27 – 29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37 – 40 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 – 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th/daily_forecast.php