อย่า “จูบ” เพื่อนสนิท เพราะนั่นอาจเป็นครั้งสดท้ายที่ได้พบกัน 18+ (ตั้งแต่เริ่มจนจบ)
อย่า “จูบ” เพื่อนสนิท เพราะนั่นอาจเป็นครั้งสดท้ายที่ได้พบกัน 18+ (ตั้งแต่เริ่มจนจบ)
#อย่าจูบเพื่อนสนิทเพราะนั่นอาจเป็นครั้งสดท้ายที่ได้พบกัน
ยาวมากค่ะ พูดเลย ตั้งแต่เด็กจนโต จนถึงปัจจุบันเลยค่ะ ทนๆอ่านกันหน่อยนะคะ เพื่อกะทู้นี้จะไปไกลถึง อเมริกา
By จากสมาชิก pantip สมาชิกหมายเลข 2068218
กระทู้ http://pantip.com/topic/34237462
ชื่อลำดวนค่ะ ปู่ตั้งให้ (โบราณไปนิดแต่ชินแล้ว) เพราะเป็นชื่อ คนรักคนแรกของปู่ ส่วนแม่เรียก หมวยเล็ก ไม่ก็ไอ้หมวย ไอ้เล็ก /b]
เรื่องของเราเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2535 เราเกิดวันพฤหัส เดือนกุมภา ที่โรงบาลเล็กๆแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน
แม่เล่าให้ฟังว่า วันที่แม่คลอด ตรงกับวันที่ บ้านตรงข้ามย้ายเข้ามาใหม่พอดี และที่สำคัญ บ้านหลังนั้น เพิ่งจะมีเด็กผู้ชาย
เกิดได้ประมาณสองเดือน พอแม่พาเราออกจากโรงพยาบาล ก็สนิทกับบ้านตรงข้าม เพราะลูกเล็กเหมือนกัน ฝากกันเลี้ยงบ้าง
จนทั้งสองบ้านผูกเสี่ยวกันให้ ( ผูกแขนเพื่อให้เป็นเพื่อนสนิทกัน หรือเพื่อนตายกัน ประมาณนี้ ) ตั้งแต่ประมาณขวบนึง
บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ แม่จะเอาญาติมาส่งเรียนหนังสือ รุ่นแล้วรุ่นเล่า จนเราประมาณ 7 ขวบ
ก็มีสมาชิกในบ้าน 8 คน รวมถึง สมาชิกที่แวะเวียนมาสิงที่บ้าน ไม่ยอมกลับบ้านตัวเองอีก สี่ห้าคน
สรุปคือแม่เลี้ยงเด็กๆ 10 กว่าคนในบ้าน ทำให้ตอนนั้น เริ่มมีปัญหากับพ่อ
อ้าวเราลืมแนะนำชื่อ เพื่อน(เสี่ยว) ของเราที่อยู่บ้านตรงข้าม ชื่อ ไอ้มะม่วงค่ะ แม่มันชอบกินมะม่วงมากตอนท้อง
เลยเอามาตั้งชื่อลูก (ถ้าเอ็งเข้ามามาอ่าน เอ็งคงไม่ว่านะถ้าใช้ชื่อนี้) มันก็เป็นอีกคนนี่แหล่ะที่มาสิงบ้านเรา ไม่ยอมกลับ ตอนนั้น
เราเป็นหัวโจก ของแก๊ง ทีประกอบด้วย พี่บาส พี่บอล (แฝดนรกลูกเจ้าของตลาด ) อายุมากกว่า แต่มาอยู่บ้านเราต้องเรียกเราลูกพี่
พี่เฉื่อย( เป็นเบ๊ประจำกลุ่ม) แกเป็นเด็กวัด ปัจจุบันนี้บวชเรียนอยุ่ เรากลับไปที่นั่นก็จะไปนมัสการตลอด
มีไอ้เงาะ ไอ้เจแปน น้องทิพย์ น้องอาย บลาๆ คือเยอะมาก ทั้งญาติทั้งเด็กแถวนั้น
มารวมกันที่บ้านหมด ช่วงนั้นสนุกกันมาก
เวลานอนทุกคนจะแย่งกันนอนข้างเรา เพราะเราคือหัวหน้า แม่จะปูที่นอนปิกนิค ต่อกันยาวๆ แล้วเด็กๆจะนอนเรียงๆกัน
เวลาใครโดนรังแกที่โรงเรียน เราก็ไปต่อยให้ ตอนอยู่ ป.สอง ไอ้มะม่วงโดนรุ่นพี่ป. หก พลัก เรารู้ปุ๊บ เราวิ่งไป ห้องป. หก
แล้วกระโดดถีบพี่คนนั้นล้ม แล้วกระทืบๆ จนแม่เค้ามาเอาเรื่องที่บ้าน ตอนนั้นเราสนุกกันมากจริงๆค่ะ ใครอยู่แก๊งเราเราจะดูแล
(เราขาใหญ่ เตะหนัก ปู่สอนชกมวยแต่เล็ก) ปกติก็เป็นไอ้มะม่วง นี่แหล่ะที่นอนข้างๆเรา
ช่วงป.หนึ่ง ป.สอง สงสัยเราเริ่มมีเค้า ความหน้าตาดีโผล่มาบ้าง เพราะบังเอิญน่าตาไปทางพ่อ ซึ่งเรียกว่า พี่ติ๊กก็พี่ติ๊กเถ๊อะ
เจอครูชาติ เข้าไป สูสีๆ นั่นแหล่ะพ่อเลยเจ้าชู้มากๆ เพราะหล่อเกินไป
เราเลยได้ แต่งชุดไทยเป็นนู่นเป็นนี่ บ่อยๆ
ที่จำได้แม่นมีสองเหตุการณ์ คือตอนที่เป็นนางนพมาภ ตอนป.หนึ่ง เราใส่โจงกระเบนชุดสีชมพู กับเสื้อคอกระเช้าสีขาว
นั่งอยู่บนรถที่มีกระทง ขบวนแห่ก็แห่ไปรอบอำเภอ พวกลูกน้องเราก็จะมายืนข้างถนน แล้วตะโกน เรียกหัวหน้าๆ หัวหน้าสวยที่สุด
แม่เล่าว่า เรานี้เชิดหน้ายิ้มหวาน แบบ ทำหน้าพอใจอย่างที่สุด ผู้ใหญ่หลายคนก็ขำๆ
ตอนที่ขบวนหยุดไฟแดง เรามองไป ตรวจดูว่า สมาชิกในกิลด์ มาครบป่าว หัวหน้าสวยต้องมาชื่นชม ใครไม่มาโดนเตะแน่ ( หลงตัวเองแต่เด็ก )
แต่เราไม่เห็นไอ้มะม่วง เราเลยตะโกนถามแก๊งเรา พวกนั้นบอกว่า ไอ้มะม่วงแต่งตัวยังไม่เสร็จ
คือมาตอนนี้ นึกย้อนกลับไปก็ฮามาก กับสภาพมันตอนนั้น เราเห็นเด็กชายเล็กๆ หัวเกรียนๆ สูงเท่าหูเราเอง
เดินมาในชุดกางเกงยีนส์หล่อๆ เสื้อเชิตพ่อตัวใหญ่รุ่มร่าม ใส่เนคไท ปะหลาดๆ วิ่งมา แถมมีแว่นตาดำ ที่ตาด้วย
มันก็วิ่งมายืนข้างรถ แล้วก็พูดว่า
“หัวหน้าต้องมีบอดี้การ์ด เพราะเราไม่ยู้หรอก แก๊งอื่นจะโจมตีเราตอนไหน
แต่ม่วงเห็นว่าตอนนี้หัวหน้ากำลังอ่อนแอ ม่วงเลยต้องเตรียมพร้อม ”
ในตอนนั้นรู้สึกเราจะโกรธๆนะ ที่โดนหาว่าอ่อนแอ เราเลยถามกลับไปว่า เราอ่อนแอตรงไหน เะราเป็นหัวหน้าแถวนี้นะ (คือตอนนั้นเด็ก ดูหนังตีกันเยอะไปหน่อย การ์ตูนก็พวก โรงเรียนลูกผู้ชาย โจโจ้ล่าข้าม อีกา บลุ ไรพวกนี้ เลยติดความเกเรมาหน่อยๆ )
มันตอบกลับมาว่า ” หัวหน้าอ่อนแอ ตอนที่กำลังสวยสุดๆ มะม่วงไม่อยากให้ศัตรูเห็น ”
น่อวววววว หวงเราแต่เด็กแฮะไอ้ม่วงงงง โถ่ววว เรานี่สวยแต่เด็กจริงๆ 55555555
ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ คิดแค่ว่า เออ มันพูดดีแฮะ ความสวยเริ่มสำคัญกว่าความแข็งแกร่ง เราคงเริ่มเป็นสาวตั้งแต่ป.หนึ่งล่ะ
พอรถเคลื่อน ออก ไอ้ม่วงของเรา ก็เดินตามรถที่เรานั่งต้อยๆ ตะโนถาเราตลอด หัวหน้าร้อนมั้ย
หัวหน้าหิวมั้ย มันแหงนหน้ามองเราตลอดเลย หลายกิโลนะ กว่าขบวน จะเคลื่อนมาถึง สนามกีฬา ที่มีเวทีประกวด
หนูน้อยนพมาศ และด็ไอ้มะม่วงนี่แหล่ะที่เดินเหงื่อแตกเหงื่อแตน ตามมาจนถึง สนามกีฬา คือถ้าเราจินตนาการไม่ผิด
มันคงเฝ้ามองเราด้วยสายตายกย่องบูชา เตารพในความแข็งแกร่งของเรา 555555555
คิดดูสิคะ .. เดินกลางแดดร้อนๆ ด้วยเสื้อผ้าแบบนั้น แค่จะเดินตามเรา ถ้าย้อนกลับไปได้ เราคงกระโดดกอดมันแรงๆซักทีอ่ะ
เรื่องราวสมัยประถมก็ ประมาณนี้
เดี๋ยวขอย้ายไปพิมพ์ในคอมก่อนนะคะ
เรามีความสุขมากค่ะ แต่มีช่วงนึงที่ชีวิตเราลงเหวมาก
พอเราเป็นคนเจ้าชู้ เวลาเมาจะตีแม่ เราเลยเกลียดผู้ชาย และมีความรู้สึกว่าเราต้องควบคุมผู้ชายให้อยู่ต้ำอำนาจเราให้ได้
จะไม่ให้ใครมามีอิทธิพล เหนือความรู้สึกเราเป็นอันขาด เราอาจรู้สึกแบบนี้ก็ได้
เราจึงชดเชยความรู้สึกแหว่งๆหายๆนี้ ด้วยการมีลูกน้องเยอะๆ คอยเดินตาม ค่อยฟังคำสั่ง
แต่เวลาผ่านไปอะไรๆก็เปลี่ยนค่ะ เราเริ่มโต เด็กผู้ชายคนอื่นก็เริ่มโต จากที่เคยฟังเรา บางครั้งก็ออกแนวห้ามๆหวงๆ ทำเหมือนเราเป็นเด็กเล็กๆ แต่ก็ยังเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น พอบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน
เราขึ้นม.1 ที่โรงเรียนเดียวกับไอ้มะม่วง มันก็ยังเป็นเบ๊ที่ดี คอยดูแล ไปซื้อข้าวให้ ถือกระเป๋าให้ เคยซักกางเกงในให้ด้วย
จำได้ว่า เราแช่กุงเกงในไว้ ไอ้มะม่วงชวนเราไปดูช้างเตะฟุตบอล ที่วัดมีงานเทศกาล เราไปไม่ได้จนกว่าจะซักกุงเกงในเสร็จ
มันก็นั่งลงข้างๆเราช่วยเราซักกุงเนงในน้อยๆของเรา ในกะละมังจนเสร็จ
ความเปลี่ยนแปลงเริ่มตอน ม.3 อยุ่ไอ้ม่วงของเรา ที่เราเคยไล่เตะ ใช้ให้มันบีบนวด ให้เราขี่หลัง อยู่มันก็สูงแบบพรวดพราด แถมเสียงมันก็แปลกๆอีกด้วย เสียงแหบๆ ดูน่าแหยง สำหรับเรามากตอนนั้น เราเลยสั่งมันว่า ห้ามพูดจนกว่าเราจะอนุญาต
มันเข้าชมรมบาสเกตบอล เราก็พึ่งสังเกตว่า ลูกน้องเราคนนี้ เริ่มมีสาวๆ มาสนใจมากขึ้นๆ แต่เราก็เฉยๆนะ ใครฝากของให้มัน เราก็กินเองหมด
ของลูกน้องก็เหมือนของหัวหน้า ข้าไม่อิ่มเอ็งอย่าโวย มันก็ไม่ว่านะ แต่ชอบขยี้ผมเรา แรกๆเราเคืองมาก คือมันลบหลู่เราอ่ะ
เราเป็ฯคนส่งเสริมให้มันเติบโตมาแบบปลอดภัย ไม่มีศัตรูคนไหนจะทำร้ายมันได้ คิดดู๊วววว มันมาลูบหัวอันสูงส่งของเรา แต่พอด่ามัน ไล่เตะมัน มันกลับยิ่งสนุกๆ หลังเราได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ได้แต่ด่ามันแบบอุบๆอิบๆ
เพราะถ้าด่าดัง มันจะบีบปากเรา ดึงหูเรา ( คือไม่สำนึกในบุญคุณที่เราเอ็นดูมันมาเลย )
เราก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาเรื่อยๆ ตัวติดกันตลอด ส่วนลูกน้องคนอื่น ก็แยกย้ายไปเรียนที่ต่างๆ เหลือเรา ไอ้มะม่วง พี่เฉื่อย(ตอนนั้นเป็นเณรเฉื่อยแล้ว) และก็เด็กๆ ไม่กี่คน ก็เหงาๆนะ คิดถึงตอนเด็กๆ เล่นมวยปล้ำ จับทุ่ม เล่นตำรวจจับโจร
ตอนนั้น เรารู้สึกว่า ไอ้ม่วงเนี่ย มันยิ่งกว่าพี่น้องซะอีก ถ้าขาดมัน เราก็คงเหงาตายแน่ เราเคยบอกมันว่า
เอ็งอย่าทิ้งลูกพี่นะ เอ็งไปอยุ่ที่อื่น หัวหน้าคนอื่นไม่รักเอ็งแบบข้าหรอก ไอ้ม่วง มันก็พยักหน้านะ ก่อนจะจับเราทุ่ม
เราเล่นกันแบบนี้จน ม.4 ตอนนั้นพ่อกลับมาเยี่ยมบ้าน เพราะเลิกกับเด็กในสังกัดคนที่ 200 ได้มั้ง คนล่าสุดนะ แก่กว่าเราไม่กี่ปีเอง เอิ่มขุ่นพระ คาสโนว่า เรียก พระเจ้าเลยล่ะ
วันนั้นเรานอนเล่นบนเตียง ฟังเพลง ปี่ปั๊บ โปเตโต้อยู่ ไอ้ม่วงก็นอนตอยุ่ปลายเตียงอ่านวันพีช คือเสื้อมันเลิกขึ้นมา เราแอบเห็นขนหน้าท้องมัน เราบอกว่า “น่าเกลียดว่ะ ทำไมไม่โกน”
มันก็ไม่สนใจ อ่านการ์ตูนต่อ แล้วตอบแบบเรียบๆมาก “ผู้ชายเค้ามีกันหมดแหล่ะเจ้ ใครเค้าโดนกัน”
เราก็ยังเถียงนะ “มันน่าเกลียดนี่หว่า ถ้าพรุ่งนี้เอ็งไม่โกนไม่ต้องมาบ้านข้านะ” ไอ้ม่วงของเรามันเลยบังอาบเอาเท้าถีบเรา ก็เบาๆแหล่ะ แต่เรากำลังจะลุก เลยเสียหลักกลิ้งตกเตียง (คือไม่ช่วยนะไอ้ม่วงนะ)
เราโมโหมาก (ทำไมขี้โมโหจังแว๊” เลยกระโดด เอาหัวพุ่งชนท้องมัน มันเลยล็อกตัวเราไว้ท่านั้นแหล่ะ ที่หัวเราดุนๆท้องมัน เราก็ไม่หมดความพยายาม พยายามเอาหัวกระแทกท้องมันอย่างไม่หยุดยั้ง (เอ็งต้องตายยยยยย)
เราก็เล่นกันแบบนี้ คือเราไม่รู้สึกว่ามันเป็นผู้ชายอ่ะ เจี๊ยวมันก็เคยเห็นมาแล้วตอนเด็กๆ อาบน้ำด้วยกัน เลยไม่มีความรู้สึก พิศวาส หรืออะไรเลย
แต่มันซวยตรงที่พ่อเปิดประตูเข้ามา แล้วเห็นเราคร่อมไอ้ม่วงอยู่อ่ะจิ กรี๊ดแตกเลยๆ ไอ้ม้วงโดนพ่อดึงคอเสื้อ แทบลากลงมาข้างล่างเลยล่ะ
เราก็อธิบายว่าไม่มีไรเลย เล่นกันมาต่เล็ก พ่อก็ด่าไอ้ม่วง ด่าๆๆๆๆๆ พ่อแม่ไม่สั่งสอน เลว อะไรมากมาย ( ขุ่นพระ พ่อเจ้าชู้ คบไม่เลือก แต่ดันหวงลูกสาวตัวเอง หนุเข้าใจค่ะ ว่าหนูสวยมาก)
เราเลยโพร่งไปว่า “พ่ออย่าไร้สาระน่ะ ไอ้ม่วงมันก็แค่ลูกน้องหนู หนุไม่มีทางคิดอะไรกับมันหรอก อ้วกแตกพอดี” ไอ้ม่วงหันมามองหน้าเรา
มันตาแดง สงสัย โดนพ่อด่าเยอะไป มันเลยลุกขึ้นแล้วเดินออกจากบ้านไป
พ่อสั่งห้ามไม่ไอ้ม่วงขึ้นไปบนห้องอีก เราก็ค่ะๆไปเรื่อย แล้วพ่อก้บอกว่า จะคุยเรื่องนี้กับแม่ (ฝันไปเถอะ แม่ไม่มองหน้าเลยยังไม่รู้ตัวอีกนะลุงนะ แง่มๆ)
หลังจากที่พ่ออาละวาด ไอ้ม่วงก็ดูเงียบๆหายไปสองสามวัน ไม่มาบ้านเลย เจอที่โรงเรียนก็เหมือนหลบเราๆ เราก็แบบตอนนั้นเห็นแก่ตัวมาก คิดว่ามันจะตีตัวออกห่าง หรือมันอาจจะทนเป็นลูกน้องเราไม่ไหวแล้ว เลยจะไปจากเรา
ด้วยนิสัยแย่ๆ เราเลยเดินไปกระชากคอเสื้อมัน แล้วบอกว่า “มุงเป็นไรวะ เป็นอะไรทำไมไม่พูด มุงโกดอะไรตูวะ ตูจะรู้มั้ย เงียบแบบนี้”
มันก็มองหน้าเรานิ่งๆ คือก็แปร๊บๆอ่ะ มันอธิบายไม่ถูก คือรู้สึกว่าทำไรผิดแน่เลย แต่นึกไม่ออก
มันจับมือเราที่กุมคอเสื้อมันอยู่แล้วดึงออกอ่ะ
“ หมวยเล็กก็ไม่เคยรู้อะไรซักอย่างหรอก” ผ่าง!!!!!!!! ช็อกสิคะ ช็อก!!! ท่านผู้ช๊มมมมมมมมมมมมม
ช็อกที่หนึ่ง มันไม่เคยเรียกชื่อเราเลยตั้งแต่จำความได้ มันไม่เรียก ลูกพี่ หัวหน้า ก็เจ้ ไม่มีคำว่าหมวยเล็กออกมาจากปากมันเลย (ตอนนั้นยังมีคิดอีกนะ ว่ามันลามปามเรา ดูนิสัยเราดิ)
ช็อกที่สอง ตอนที่มันดึงมือออก มันบีบแรงมาก ทั้
ๆที่เมื่อก่อน มันแพ้กำลังเราตลอด แม้แต่ตอนงัดข้อ (หรือมันอ่อนให้ก็ไม่รู้)
ช็อกต่อมา … คือมันเดินหนีเราไปเลยค่ะ ไม่รอคำตอบ ไม่รอคำถาม ไม่รอให้หายช็อก
เรานี้น้ำตาจะแตกเลยค่ะ แต่ด้วยความแข็งแกร่งที่ฝึกฝนมา เราเลยไปร้องไห้ที่บ้านแทน
ประมานเดือนที่สองของการขึ้น ม.4 พี่ๆม.5 จะคัดดาวโรงเรียน เพื่อถือป้าย และทำกิจกรรมอื่นๆ
อิอิ ไม่ต้องเดาค่ะ อิฉันนี่แหล่ะค่ะ อิฉันเองงงงงงงงงงงงง !! เถื่อนแต่สวยนะคะ 555555 เค้าก็โหวตกัน ตอนนั้น
มาปังที่เราแหล่ะค่ะ อิหมวยเล็กจะครองโลก 555555555555555555
วันประกาศเป็นงานโรงเรียน ก็มีคนเข้ารอบ ห้าคน เราก็หนึ่งในห้า พอคัดเหลือสาม เราก็ตึกๆตักๆ ตูแน่ๆ ตูแน่ๆ
คิดแบบนี้จริงๆ (อายจุง)
ก็นะ พอประกาส ปุ๊บ เป็นชื่อ “หมวยเล็ก ประไพมาลา อุบล………….. (เซนเซอร์นามสกุล) ก็จะมีเดือนโรงเรียน มามอบดอกไม้ ชื่อพี่ หลุยส์ (คือชื่อฝรั่ง แต่หน้าไทยโพดดดด) ก็คนนี้แหล่ะ เป็นรักแรกของเรา
หลังจากลงเวที พี่หลุยก็มาขอเฟส กับ hi5 เรา ตอนนั้นเล่นเฟสไม่เป็น มีแต่ hi5 ก็เลยให้ไป พี่หลุยให้พวงกุญแจ รูปดอกไม้สีฟ้าเราอันนึง วินาทีนั้นแหล่ะค่า
ไอ้ม่วงก็โผล่มา
มันคว้าหมับ! เข้าที่พวงกุญแจ “ ขอบคุณฮะพี่ เดี๋ยวผมเก็บให้หัวหน้าเอง เนอะหัวหน้าเนอะ” มันหันมาพูดกับเราตบท้าย งงสิคะ นี่ข้ากับเอ็งดีกันแล้วหรอ ไม่คุยกันเป็นอาทิตย์ นี่ดีกันแล้วหรออ เราก็ เอิ่ม เคๆ เอ็งดี ข้าก็ดีฟะ
ครั้งนี้จะให้อภัยในความเหลวไหล ของลูกน้องคนนี้ครั้งนึงละกัน
หลังจากนั้นเราก็กลับมาดีกันเหมือนเดิน มันขับมอไซ มารับเช้า เย็นแวะร้านเช่าการ์ตูน ไม่ก็ซื้อ C-Kid แล้วกลับมาอ่านที่บ้านเรา มันกินข้าวเย็นบ้านเราแล้วก็กลับ
ในระหว่างั้น เราก็เริ่มคุยกับพี่หลุยส์
ตอนแรกที่เราคุยกับพี่หลุยสื เราปิดไอ้ม่วงไว้ค่ะ เพราะแบบว่า มันอายน่ะ กลัวมันจะแซว
ม่วงมันมารู้ตอนที่พี่หลุยส์มาหาเราที่ห้องเรียน ถามว่า เมื่อวานทำไมไม่รับสายเลย ไอ้ม่วงก็ทำหน้างง คือเรานั่งข้างหน้า ส่วนไอ้ม่วงนั่งหลังเราไปสองโต๊ะ มันก็ลุกขึ้น เดินมาขนาบข้างเรา
เหมือนสมัยเด็กๆเลย เวลามีเรื่องมันจะชอบเดินมายืนประชิดหลัง แม่ะๆ เป็นลูกน้องที่ดีมากๆ แต่ตอนนี้ ให้ฉันได้ อ่อย ผช ก่อนได้มั้ย
พี่หลุยส์ก็ดู ไม่พอใจ ที่อยู่ๆม่วงมันเดินมายืนคร่อมเก้าอี้เรา มันเอาคางมาเกยๆหัวเรา แล้วมองหน้าพี่หลุยส์
เราเลยแบบ ว่ามัน
“ ไอ้นี่หนิ คนจะคุยกัน ไปนั่งที่ไป๊” มันก็มองหน้าเรา แล้วเดินไปนั่งที่ ปึงปังๆ
พี่หลุยมองเราแล้วถามว่า เราเป็นอะไรกับมะม่วง เรานี่แทบลิ้นพันกันเลย ตอบไปว่าไม่มีอะไร แค่เป็นเพื่อนกันเท่านั้น
เพื่อนแต่เด็ก ม่วงมันจะชอบทำแบบนี้เวลามีเรื่อง เพราะจะปกป้องเรา
พี่หลุยก็ชวนเรา ไปกินข้าวเที่ยง เราก็ตกลง
เที่ยงนั้น เรา ให้ไอ้ม่วงไปกินข้าวกับเพื่อนผู้ชาย ส่วนเราไปโรงอาหารกับพี่หลุย ไอ้ม่วงก็กวนบาทาสุดๆ มันมานั่งตะถัดไปจากเรา แล้วก็คุยเสียงดังมาก จนเรากับพี่หลุยพูดกันไม่รู้เรื่อง
คือเราอดทนนะคะ เพราะพึ่งดีกับเพื่อน แต่ตอนนั้นไม่เข้าใจจริงๆว่ามันเป็นอะไรของมัน หรือมันโกรธที่เราไม่เล่าหั้นฟังทุกเรื่อง
สองสามวันต่อมา มันก็ยังเป็นอยู่แบบนี้ คอยมากวนเราตลอด
จนเย็นวันนั้น มันนอนดูทีวีที่โซฟาบ้านเรา ก็คุยกันไปเรื่อยๆ เม้าเรื่องนั้นเรื่องนี้ คือถ้าไม่มีเรื่องพี่หลุยส์ มันจะปกติ เอาใจ กวนเรา
ฟังคำสั่งเราตลอด
เราเลยถามมันว่า
“ม่วง ช่วงนี้เป็นไรวะ ทำไมชอบทำแย่ๆใส่พี่หลุย โกรธหรอที่ไม่ได้เราให้ฟังแต่แรก” เราก็พูดลอยๆ ไม่มองหน้ามัน มันก็เงียบ
“เออๆ ต่อไปมีอะไรจะเล่า เล่าทุกอย่างแหล่ะ หัวหน้าจะรักจะชอบใคร หัวหน้าก็ไม่ทิ้งเอ็งหรอก เอ็งน่ะ จะเป็นลูกน้องเบอร์หนึ่งตลอดไปเลย” เราพูดต่อ บีบแก้มมันด้วย
มันก็เขยิบเข้ามา ขะยี้หัวเรา แล้วดมๆ
“ใช้โดฟหรอ หอมดี”
-..- เอิ่มมม ที่ตูพูด คุณมุงไม่ได้ฟังเลยใช่มั้ย
หลังจากนั้น เราก็เล่าทุกอย่างให้ไอ้ม่วงฟังนะ พี่หลุยส์ดีกับเรามาก เอาใจ และอดทนกับไอ้ม่วงสุดๆ จนวันนึงพี่เค้าพูดกับเราว่า
“น้องแคระ (สรรพนามเรียกเรา น่ารักป๊าววว อิอิ) ไปดูหนังกันไหม ไปแบบสองคนนะ” เราก็หันหน้าไป อยากไปใจจิขาด
แต่ถ้าไม่ชวนลูกน้องคนสนิท มันก็จะโกรธเราอีก ช่วงนั้นไม่รู้เป็นไร เรากลัวไอ้ม่วงโกรธมากๆเลย
“หมวยเล็กชวนมะม่วงไปได้มั้ยคะพี่หลุยส์ เดี๋ยวนี้มันผีเข้าผีออก มันจะงอนอีก” เราลองถามดู
“พี่ว่า น้องควรห่างๆจากม่วงบ้างนะ คือต่อไปเข้ามาลัยก็ต้องแยกกัน ตัวติดกันแบบนี้ ตลอดไม่ได้ แล้วหมวยเล็กจะไม่มีเวลาส่วนตัวเลยนะ ต้องลองดู ให้มะม่วงอยุ่คนเดียวบ้าง”
เราก็อืม จริงแฮะ แต่ทำไมมันหวิวๆไม่รู้ แค่คิดถึงชีวิตที่ไม่มีมัน เราก็เหงาแปลกๆแล้ว
สรุปเสาร์นั้น เราโกหก มะม่วงว่า จะไปธุระกับที่บ้าน แล้วหนีไปดูหนังที่ห้างกับพี่หลุยส์
เราสูญเสียความบริสุทธ์ของแก้ม ให้พี่หลุยส์ในโรงหนังนี่แหล่ะ
จำได้ว่า เราสองคนนั่งจับมือกันตลอด พี่หลุยส์กระซิบข้างๆหูเราว่า “พี่รักน้องแคระมากๆเลยรู้มั้ย”
โหยย เรานี่อ่อนระทวยเลยค่ะ ละลายสุดๆ
แล้วพี่เค้าก็ ยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มเรา เบาๆ อะเหื้อออออ!
ขนลุกตั้งแต่ตาตุ่มถึงซอกหู ตอนนั้นเรารู้สึกว่า นี่แหล่ะคือความรัก
เราเริ่มตัวติดพี่หลุยส์ จนถึงม.5 เลย คบกันเกือบๆปีได้ ไอ้ม่วงก็ยังอยู่ในชีวิตเราปกติ บางวันก็มาค้างบ้านเรา
หัวเตียงเราจะติดรูปคู่พี่หลุยส์ ไว้หัวเตียงเยอะมากๆ สูงเกือบติดเพดาน เวลาม่วงมาห้องเรา มันก็จะบ่นๆ เราเห็นบางรูปมันแอบเติมนวด ให้พี่หลุยส์ด้วย
มันยังเป็นลูกน้องที่ดีเสมอ วันไหนที่มาค้างที่บ้าน มันก็จะนอนฟังเราคุยโทรศัพท์ กับพี่หลุยส์จนดึกดื่น ตอนแรกเราก็อายๆ กลัวมันแซว แต่ผิดคาด มันฟังอย่างสงบ และเงียบมากจนเหมือนไม่ได้อยู่ในห้อง
พอมันไม่แซว เราก็ไม่อายจ้า จะรัก จะคิดถึง จะจุ๊บๆ ก็พูดต่อหน้ามันเลย
พี่หลุยส์ชอบให้พูดว่าคิดถึงเสียงดังๆ ก่อนวางสาย
คือจะบอกว่า “อะไรนะ พูดใหม่ ไม่ได้ยินคะ” จนเราต้องตะโกนใส่ พี่หลุยส์ก็จะหัวเราะ ช่วงนั้นคุยกันเยอะ เพราะพี่หลุยเข้า ปีหนึ่ง ทำให้ยุ่งมาก ไม่มีเวลามาเจอ
พอพี่หลุยส์จบออกไป เราก็เริ่มมีคนมาจีบเยอะขึ้น ได้ดอกไม้ ได้คิตแคต แล้วก็ลูกอม ขนมเยอะแยะ
ส่วนไอ้ม่วงก็ไม่แพ้กันจ้า คือจำไม่ได้ว่ามันมาหล่อตอนไหน คือเห็นมันทุกวันๆ แต่สาวกรี๊ดมากๆ วาเลนไทน์นะ ได้ขนมเยอะกว่าเราอีก
แต่ก็ลาภปากเราทั้งนั้น หุหุหุ
ช่วงประมาณเทอมสอง เราสนิทกับรุ่นนน้องคนนึง ขอใช้ชื่อสมมุติว่า แต้ว น้องแต้วตัวเล็กกว่าเราอีกนะ น่ารัก ผมสวยด้วย สนิทกันเพราะอยู่สีเดียวกัน เป็นหลีดด้วยกัน
ไอ้ม่วงเวลาซ้อมบาสเสร็จมันจะมานั่งรอเราซ้อมหลีด น้องแต้วก็จะเข้ามาคุยกับเราบ่อยๆ วันนึงน้องถามว่า
“พี่หมวยเล็กเป็นแฟนพี่มะม่วงหรอคะ” เราก็หัวเราะ
“จะบ้าหรา พี่เห็นมันตั้งแต่เจี๊ยวยังเท่าหอยหมา ตอนนี้เท่าหอยช้างแล้วมั้ง ถ้าจะเป็นแฟนกัน นี่คบกันนานแล่ววว” น้องแต้วเลยยิ้มๆ
“หนูชอบพี่มะม่วงค่ะ พี่หมวยเล็กช่วยหนุหน่อยสิ หนูเลี้ยงติมลุงหนวด” เราก็ อาห๊า ไอติมลุงหนวดในตำนาน ใครเลิกช้า อด หมดแน่ เพราะแกขายดี
“ โอเช นี่เบอมัน เอาไป โทรเลย อยากได้ อยากโดน ต้องห้าม ป๊อด” เรากดเบอร์ไอ้ม่วงให้น้องแต้ว น้องแกจดเร็วมาก (เห็นเงียบๆฝาดเรียบ เดี๋ยวบอกทีหลัง)
พอจดเสร็จ ไม่ถึงสิบนาทีเราก็ซ้อมต่อ แต่ก็เห็นไอ้ม่วงมานั่งรอแล้ว เพราะเราต้องซ้อนมอไซมันกลับบ้าน
คืนนั้นพ่อแม่มันไม่อยู่ มันมาค้างบ้านเรา (หลังจากพ่ออาละวาดครั้งนั้น เรากับมันเลยต้องนอนหน้าที่วี ในวันที่มันมาบ้าน ต้องอยู่ในสายตาผุ้ใหญ่)
เสียงโทรศัพท์มันสั่น มันเปิดดูแล้วก็บ่นๆ
“ใครวะ” เราเลยแย่งมาดู เป็นข้อความว่า “ฝันดีนะคะ ผู้ชายในฝันของแต้ว”
อะเหื้ออออออ นางออกตัวแรงมาก เราเลยบอกม่วงไปว่า
“น้องแต้วไง คนที่สวยๆน่ารักๆ ที่ซ้อมหลีดกับข้าน่ะ” มันก็บอกว่า ไม่ได้สังเกตุ แล้วมันก็ไม่ตอบ จนเราต้องว่ามันแล้วก็พิมพ์กลับไปหาน้องเค้าเองว่า
“ฝันดีครับน้องแต้วคนสวย จากพี่มะม่วง”
น้องแกตอบมาว่า “ ดีใจจังเลยค่ะ พี่ตอบแต้วด้วย พรุ่งนี้จะมาดูที่ซ้อมมั้ยคะ”
เรานึกสนุกเลยพิมพ์ตอบไปว่า “ไปสิจ๊ะ ปดูน้องแต้วไง”
มะม่วงเห็นเลยรีบดึงมือถือกลับ แล้วเอาหมอบทุบหัวเรา เราก็เอาคืนสิจ๊ะ ตีๆ ทุบๆ มันเลยรวบแขนเราสองข้าง กดไว้กับพื้น (จำได้แม่น เพราะเราตกใจสุดๆ)
มันกดเราไว้ แล้วโน้มตัวมาใกล้มาก เรานี้ใจเต้นรัวๆเลย เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่าสู้มันไม่ได้ ทั้งๆที่มันอยู่ใต้คำสั่งเรามาตลอด
เรานี่กลั้นหายใจเลยนะ คิดว่ามันคงโกรธจริง มันโน้นตัวมาจนปลายจมูกเราแต่กัน
“หมวยเล็กอยากให้ … อยากให้เรามีแฟนจริงๆหรอ” คือน้ำเสียงมันจริงจังโพดๆ เราแบบทำตัวไม่ถูก ไม่กล้ามองหน้ามัน
เราทำไรไม่ถูก ก็เลยโพล่งไปว่า “ก็เออสิฟะ นี่จะจบมัธยมละอีกปีกว่า หาแฟนไม่ได้ หรือเอ็งเป็นตุ๊ดแว๊” เราก็พยายาม ฮาๆไป พอจะสบัดตัวออก มันยิ่งกดแรงขึ้น
“ออกไปได้แล้ว เจ็บจะตาย เดี๋ยวนี้ลามปามนะไอ้มะม่วง” เราแว๊ดๆต่อ แต่พอสบตามันก็ต้องรีบหุบปาก (ฉันโดนลูกน้องต่อยแน่ๆ)
มันตอบเสียงจริงๆจังว่า
“หัวหน้าจะลองดูมั้ย จะได้รู้ว่าเราเป็นผู้ชายหรือเปล่า”
อื้หืออออออออออออออ!!
ต้องอื้อหือสิท่านผู้ช๊มมมมมมมมมมม
มันกล้ามากกกกกกกกกก อารมเดือดปุดก็มา ความรู้สึกแปลกๆก็มี เราเริ่มน้ำตาคลอ
ก่อนมันจะลุกขึ้นแล้วก็หัวเราะ แบบวัวตาย
“เย่ มะม่วงชนะหัวหน้า แค่นี้ ก็กลัว แว๊ๆๆๆ หัวหน้าไม่เจ๋งนี่หว่า” เรานี่ไล่เตะมันเลย มันเลยรวบตัวเราไว้แล้วบอกว่าไปนอนข้างบนไป ม่วงจะนอนข้างล่าง
“ก็นอนหน้าทีวีนี่แหล่ะ ไม่เล่นละ เหนื่อย” มันก็ยังยืนยันให้เราไปนอนข้างบน พอเราเห็นน้ำเสียงมันจริงจังก็เลย หยิบหมอนแล้วเดินขึ้นห้อง
คือเราก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไร แต่มารู้ตอนหลังว่า คืนนั้น มะม่วงกำลังพยายามยับยั้งชั่งใจ ไม่ไปตามอารมณืจนทำอะไรแปลกๆกับเพื่อน
สองสามวันต่อมา น้องแต้วกับไอ้ม่วงก็คุยกันมากขึ้น เรางี้แซวจนน้องแต้วอาย จากที่เคยไปไหนกันสองคน
ก็มีน้องแต้วไปด้วย
แหม่ะ ไม่อยากจะเม้า เด็กนี่มันร้ายกาจ
ช่วงนั้นเรางอนพี่หลุยส์บ่อย อาจจะเพราะเห็นไอ้ม่วงกับน้องแต้ว สวีทกัน เราเลยอิจฉา คิดถึงพี่หลุยส์ด้วย มีครั้งนึงโกรธมาก เพราะมีผู้หญิงคนนึงมาโพสเพลงให้พี่หลุยส์ แล้วพี่หลุยส์ไปเม้น ทำหน้ายิ้มให้ คือเราเคืองมาก แต่พี่แกบอกว่าไม่มีอะไร ประกอบกับ ปีหนึ่งรับน้องเสร็จแล้ว เพื่อนๆพี่หลุยสืเลยจะปาร์ตี้กัน พี่เค้าเลยชวนเราไปด้วย
แน่ล่ะท่านผู้ชมมมมมมมม ไอ้มะม่วงมีหรือจะพลาด
แล้วไอ้ม่วงไป น้องแต้วก็ไปด้วยยย ทีนี้แหล่ะเด็ดดดดดด
อาจจะช้าไปหน่อยนะคะ เพราะตอนนี้อยู่สุวรรณภูมิ
เรามีเรื่องเยอะแยะที่ต้องคุยกับมะม่วง แต่ไม่มีโอกาส ไม่กล้าด้วย
มีความรู้สึกอยากจะเล่าให้ใครสักคนฟัง เลยลองพิมพ์ไปเรื่อยๆ ไม่น่าเชื่อว่าพรั่งพรูขนาดนี้
……
(ขอเล่าแบบละเอียดยิบเลยนะคะ)
วันนั้นเป็นปาร์ตี้ จบรับน้อง ก็มีสายรหัสพี่หลุยส์ และเพื่อนๆพี่หลุยส์ เกือบๆ 20 คน เค้าจัดกันที่ร้านเหล่าแห่งหนึ่งที่ชั้นบนเป็นหอพัก (พี่หลุยเรียนมหาลัยที่มีร้านเหล่าอยู่หลัง ม. ยังกะเมืองเมืองหนึ่งเลย)
เราก็จัดเต็มสิคะ เพราะรู้แน่ว่า ผู้หญิงคนที่โพสเพลงให้พี่หลุย ไปด้วยเพราะอยู่สายรหัสเดียวกัน พี่หลุยส์มารับเราที่บ้าน ส่วนไอ้ม่วงจะไปรับน้องแต้ว แล้วตามไปที่ร้าน
ตอนที่เราเดินลงบันใดนะ ยังกะฉากในหนัง(มโนเอง) พี่หลุยส์ยืนยิ้มแป้น แล้วทักว่า “โตเป็นสาว สวยขึ้นกว่าเดิมนะน้องแคระ” เราก็ยิ้มเขินๆ ไม่ค่อยได้แต่งตัวสวยๆแบบนี้เท่าไหร่ ตอนนั้นเราไปซื้อกระโปรงที่ห้าง เลยล่ะ พันกว่าบาท แต่ใส่แล้วดูสวยมาก ดูมีเอว มีสะโพก
แล้วก็เสื้อแขนกุด สีขาว เอวลอยนิดๆ (เราอยากให้เซกซี่ เพราะรูปโปรไฟล์ ผู้หญิงคนนั้น เซ็กซี่มาก) แต่ก็ไม่อยากให้โป๊ ไป เลยแขนกุดนิดๆหน่อยๆละกัน
( ตายจริง ม.5 เริ่มตะแล๊ดแต๊ดแต๋ซะแล้ว)
พี่หลุยส์พูดชมไม่ขาดปากเลย แล้วก็มีกลิ่นเหล้านิดๆ พี่เค้าบอกว่าโดนรับน้องมาตั้งแต่บ่ายแล้ว เลยมึนหน่อยๆ
“หมวยเล็กสวยขึ้นทุกวันเลยเนอะ พี่ว่าตอนเข้ามหาลัย ต้องได้เป็นดาวแน่เลย สงสัยหนุ่มจะจีบเยอะแน่” พี่หลุยส์พูด
แม๋ๆๆๆ ตอนนี้ก็เยอะย่ะ จงภูมิใจซะไอ้พี่หลุยส์
เรามาถึงงาน พี่หลุยส์ เปิดประตูรถให้ แล้วก็โอบเอวเราลงรถ จักกะจี๋ จนบอกไม่ถูกแฮะ
ตอนนั้น ไอ้ม่วงมาถึงงานก่อนแล้วพักนึงแต่รออยู่ข้างหน้า น้องแต้วไปเข้าห้องน้ำ
พอมันเห็นเราเดินมากับพี่หลุยส์ มันก็ส่งสายตาไม่พอใจมา 55555 รอนานล่ะสิเอ็ง
มันเดินมาหาเราแล้วถอดเสื้อคลุม ลายสะกอต (พิมพ์ถูกป่าว) ที่มันใส่ทับเสื้อกล้าม มาคลุมไหล่เรา พี่หลุยส์ก็ดูตกใจ
“ข้างในหนาวมาก” มันพูดแค่นี้
“พี่ว่าไม่หนาวหรอก ยืนใกล้ๆพี่ไว้” พี่หลุยดึงเสื้อออก เราเลยเซหน่อยๆ พี่หลุยส์โยนเสื้อให้ม่วง แล้วก็จูงมือเราเข้าประตู
“แฟนพี่ พี่ดูแลเองได้ครับน้อง” พี่หลุยส์พูดก่อนปิดประตู
“พี่ว่า ไอ้ม่วงมันทำให้พี่ดูแย่นะ ที่ไม่ใส่เสื้อคลุมให้เรา” พี่หลุยส์พูดขณะเดิน
เราก็หัวเราะแห่ๆ
“หมวยเล็กขี้หนาวพี่หลุยส์ แต่เดี๋ยวถ้าหนาว หมวยเล็กจะยืนใกล้ๆพี่หลุยส์ไว้นะคะ” เราอ้อนบ้างอิอิ เจอแบบนี้ พี่หลุยส์ยอมแน่
แล้วก็เป็นเหมือนคาดไว้ พี่หลุยส์ยิ้ม แล้วแอบจุ๊บแก้มเราเบาๆ เรานี้เขินม้วนเลยยยยยย 55555555 เอาอีกๆ ชอบๆๆๆๆๆๆๆ
ในร้านเสียงดังมากๆ เราเจอใครไม่รู้เยอะแยะจำชื่อไม่หมด พี่หลุยส์พาเรามานั่งตรงบาร์ สั่งพันซ์ ให้ เราก็แบบโอเค
พี่เค้าบอกว่าเดี๋ยวเดินไปหวัดดี ลุงๆป้า สายรหัสก่อน นั่งรอตรงนี้ เดี๋ยวมาเรียกอีกที เรานั่งรอ ปวดฉี่แล้วก็เจ็บเท้ามาก น่าจะรองเท่ากัด (อยากสวยต้องอดทน) เราเลยเดินไปห้องน้ำ (นอกเรื่องนะ ห้องน้สวยง่า ไม่เหมือนร้านเหล้าเลย ) พอดีที่น้องแต้ว ยืนคุยกับผุ้ชายคนนึงอยุ่หน้าห้องน้ำ อีผู้ชายคนนั้นลูบแขนน้องแต้วววววว
อ่ะจ๊ากกกกก !!!!! ลวนลามแฟนของเพื่อนตรู เมิงตายยยยยยยยย
เราวิ่งไปดึงแขนมันออกจากน้องแต้ว จะชกแล้ว แต่มันตัวโตง่ะ
แต่แอบกลัวอ่ะ
เพราะตั้งแต่เราเริ่มสู้แรง ไอ้ม่วง ลูกน้องที่ขี้กากที่สุดของเราไม่ได้
เราก็เริ่มจะหมดความมั่นใจในกำลังของตัวเอง
ผู้ชายคนนั้นสะบัดมือเราออก เราก้าวถอยหลังเลยเซจะล้ม
ส้นสูงทำพิษ
เค้าเลยคว้าเอวเราไว้ทัน
แล้วมันก็เนียนลูบหลังเราค่ะ
จังหวะมันดียังกะละคร ไอ้ม่วงวิ่งมากระชาก
ใช้คำว่ากระชากค่ะ มันกระชากเราออก ไอ้พี่คนนั้นก็ยกมือขึ้น ทำท่าไม่มีอะไรแล้วเดินหายไป
(ลามกมาก แต่มารุ้ทีหลังว่าเป็นคนดีใช้ได้)
ไอ้ม่วงกอดเราค่า เราสูงแค่หน้าอกมันเอง มันกดจนหายใจไม่ออก เราเลยเริ่มทุบหลังมัน
เพราะนึกได้ว่าน้องแต้วก็ยืนอยู่
มันปล่อยแล้วลูปหัวเรา “หมวยเล็กโอเคมั้ย กลับบ้านกันมั้ย”
เราก็บอกว่าไม่ขนาดนั้น แค่เราจะล้มเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดว่า ไอ้พี่นั่นลูบแขนน้องแต้ว
น้องแต้วเลยดึงมือเราบอกว่าไปล้างหน้าในห้องน้ำดีกว่า ให้มะม่วงไปรอที่โต๊ะบาร์
พอเรากับแจ้วเข้ามาให้น้องน้ำ กฺพึ่งสังเกตแต่งตัว
นางใส่กางเกงสั้นกุด กับเกาะอกสีดำ เซ็กซี่ไม่เบา นางทาลิป สีม่วงเข้มๆ ออกชมพูด้วย ทุกวันนี้ยังหาซื้อสีแบบนางไม่ได้
เราล้างหน้าอย่างระวังเพราะกรีดตามา
น้องแต้วก็ส่องกระจกไปเรื่อยๆ
” พี่ม่วงดูหวงพี่หมวกเล็กเนอะ ”
หางเสียงแบบนี้ ชั้นเคยได้ยินในหนังนะยะ
“ธรรมดาแหล่ะมั้ง คบกันมาตั้งแต่เกิดแล่ว” เราก็ทำเปฺนไม่สนใจ แต่รู้ว่าน้องแต้วเคืองเราแน่ๆ
” แต้วล้อเล่นค่า ” นางหัวเราะเเล้วมาเกาะแขนเรา ช เราว่า วันนี้สวยน่ารักมากๆ
เดินเข้ามามีแต่คนมอง
” พี่หมวยเล็กคะ แต่วเครียดๆอยากปรึกษา ” ซีนดราม่าก็มา
” เฮ้ยมีไร ไหนบอกพี่ดิ๊ ” แอบห่วงเบาๆ
” ประจำเดือนแต้วไม่มาค่ะ ” แล้วนางก็เล่าถึงฉากเร่าร้อนระหว่างนางกับมะม่วงให้เราฟัง คือทุกฉากเลย
แล้วตบท้ายว่าไม่ได้ป้องกัน
โห เราฟังนี่ขนลุกเลย มันมีความรู้สึกหลายอย่างผสมกันมั่วไปหมด
ความรู้สึกแรก คือ น้องไม่ต้องอธิบายขนาดนั้น
ความรู้สึกที่สองคือ เราอายแทน พอฟังแล้ว ไอ้ม่วงที่อยู่กับน้องแต้ว ไม่เหมือนไอ้ม่วงของเราที่เรารู้จักอ่ะ
เหมือนมันเป็ยอีกคนที่เราไม่รุ้จัก มันแบบ เห้ย มันมีโมเม้นแบบนั้นของมันด้วยหรอวะ
เราอยู่กับมันขนลืมไปว่ามันเป็นผู้ชาย ที่อยู่ในวัย จู๋จี่กับผู้หญิงได้
เรามองข้ามเรื่องนี้ไปอ่ะ คือมันลืมไปเลย พอได้ยินเลย รู้สึกแปลกๆ
เราเองก็แปร๊บๆ นะ
พอออกจากห้องน้ำ เราก็เงียบเลย มันแปลกๆ จนถึงตอนนี้ก็อธิบายความรู้สึกในวันนั้นไม่ถูก
พี่หลุยส์พาเรา มานั่งกับพี่ มีไอ้ม่วงนั่งข้างซ้าย ถัดไป เป็นนน้องแต้ว แล้วก็พี่ผู้หญิงคนอื่นๆ ข้าวขวาเราเป็นพี่หลุยสื เราจับมือกันตลอดเลย
พี่ๆ ก็แซวว่า พี่หลุยส์มีแฟนสวยมากๆ น่ารักด้วย มองไม่เบื่อเลย (หุๆๆ อิฉันก็ปลื้มปริ่มสิเจ้าคะ) พี่แก พอได้ยินคำชม มือไม้ก็ยิ่งเลื้อย แสดงความเป็นเจ้าของ โอบไหล่ ลูบแขน โอบเอว
ตอนนั้นเราก็นิ่งๆ คือเรามีความรู้สึกว่า หลังจากฟังน้องแต้วเล่า ไอ้ม่วงมันเหมือนคนแปลกหน้าเลยอ่ะ ไม่อยากจะเชื่อ แต่น้องแต้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะโกหก เราเลยกินเอาๆ พอเริ่มมึนๆ เลยพัก พี่หลุยส์ก็คะยั้นคะยอให้กิน แล้วบอกว่า เดี๋ยวไปส่งเองไม่ต้องห่วง
เราก็พยายามบอกว่า กินเยอะกว่านี้อ้วกแน่ ประมาณตีหนึ่งเราเริ่มอยากกลับ เพราะกินเหล้าเยอะ เราจะปวดจู๊ดๆ
พอเรากระซิบบอกพี่หลุยส์ แกก็บอกว่า เดี๋ยวก่อนๆ เดี๋ยวก่อนจนเราเข้าห้องน้ำสองรอบ แล้วก็เริ่มหน้าบึ้ง พี่แกเลยบอกว่า
งั้นขึ้นไปนอนรอห้องเพื่อนพี่ก่อน ชั้นบน
เราก็เอิ่ม ตูไม่ได้ใสๆนะ รู้นะว่าคิดไร แต่พอแกยื่นกุญแจให้ แล้วบอกว่า
ตอนกลับจะโทรปลุกให้ลงมา โอเค
งั้นสบายใจมาหน่อย เข้าห้องล็อกประตู ไม่มีปัญหา
เราเลยจะลุก ไอ้ม่วงก็จับมือเราบอกว่า เดี๋ยวมันไปเป็นเพื่อน
เราเลยบอกว่า อยู่เป็นเพื่อนแต้วดีกว่า มีแต่คนมองแต้ว เดี๋ยวโดนลวนลาม แล้วเราก็หัวเราะ เราเดินมึนๆ ไปที่บาร์ ขอน้ำส้มขวดนึง หรือนำอะไรนี้แหล่ะ
แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน หาห้อง 211 แป๊บเดียวก็เจอ เราดีใจนิดนึง ที่ห้องนี้เป็นห้องผู้หญิง เพราะเตียงชมพู มีโต๊ะเครื่องแป้ง
โอเค ช้านปลอดภัย เลยจะงีบซักหน่อย (ลืมคิดไปด้วยซ้ำ ว่าไอ้พี่หลุยส์ มีกุญแจห้องผู้หญิงได้ไง )
เราเคลิ้มๆกำลังจะหลับ โทรศัพท์ก็ดัง พี่หลุยส์โทรมาบอกให้เปิดประตูห้องหน่อย เดี๋ยวเพื่อน จะกินต่อกันข้างบน
เราก็ห๊ะ แล้วจะกลับตอนไหน พอดีได้ยินเสียงไอ้ม่วงลอดสายมา เลยเดินไปเปิดประตู
คืนนั้นมี พี่หลุยส์ เพื่อนพี่หลุยส์สามคน เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่ส่งเพลงให้พี่หลุยส์อ่ะ พึ่งรุ้ว่านางเป็นเจ้าของห้อง แล้วก้ มีรุ่นพี่ สองคน ไอ้ม่วง น้องแต้ว รวมเราก็เก้าคน
นั่งล้อมลงกันเล่นเกมส์ บิงโก ใครบิงโก สั่งให้คนอื่นกินเหล้าได้รอบวง เราก็เฮ้ย สนุกอ่ะ
เราบิงโกติดกัน ห้ารอบ (เซียนจ้ะเซียน) เราให้พี่ผู้หญิงคนนั้นกิน ห้ารอบ จนรอบสุดท้าย พี่คนนี้ ชื่อ อะตอม หันไปหาพี่หลุยส์ บอกว่า “หลุยส์ กินให้เราหน่อย เราไม่ให้ค้างอีกนะ ถ้าไม่ช่วย”
อื้อหืออออออ “อีกนะ” แสดงว่าเคย พี่หลุยส์หน้าเสีย เราเลยยกแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดเลย (วันนี้ ต่อยผู้หญิงแน่ แง่มๆ)
พอซักตีสาม บางคนก็ทะยอยหาที่นอน กัน เหลือเรา ม่วง แต้ว พี่หลุยส์ พี่อะตอมที่เล่นกันอยู่
เราเปลี่ยนมาเล่นเกมส์ปิดตา ดมกลิ่น
( กติกามีว่า คนที่เล่นจะต้องปิดตา แล้วให้ดมกลิ่นขนมว่าอยุ่ตรงไหน โดยเพื่อนในวง จะถือไว้ ยืนมาข้างหน้า
แล้วกัดให้โดน ถ้าภายในสิบวิ หาไม่เจอต้องกินหนึ่งแก้ว มันเป้นเกมส์ ในวงเด็กญี่ปุ่นชอบเล่น อ่ะมีหลายเกมส์ เดะตั้งทู้ใหม่เลย )
ปิ๊งป่องงง… เรากินไปสามแก้วแล้ว เอิ่ม มันเสียสมาธิตอนพวกเอ็งนับเร็วๆนี่แหล่ะ เลยไม่ได้กลิ่นไรเลย พอถึงตาเราอีกรอบ เรานี่เมาแล้วนะ แต่ในเมื่อนางอะตอมยังอยู่ ฉันก็สู้เพื่ออนาคตสามีของฉันย่ะ
เราก็ได้กลิ่นนะ.. กำลังจะงับแล้วแหล่ะ แต่ปากดันไปโดนฝ่ามือใครเข้า พอเปิดตาออกคือ
หน้าเรากับหน้าพี่หลุยส์ห่างกันแค่1 ฝ่ามือกัน
และฝ่ามือนั้นเป็นของไอ้มะม่วงค่ะ
คือพี่หลุยแกไม่ถือขนม แต่แกดันคาบฮานามิไว้ กะว่า พอเรางับ ปากเราจะโดนปากพี่หลุยส์พอดี แต่ดันเจอมือไอ้ม่วงขวางซะงั้น
พี่หลุยส์ก็ดูเซ็งๆ พี่อะตอมก็นัวเนียพี่หลุยส์เลยจ้า แกล้งเมาปะวะ ที่เรามึนๆ พอเห้นพฤติกรรมนาง สร่างเลย บอกว่าจะกลับแล้ว แล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องลงมาข้างล่าง พี่หลุยก็วิ่งตามมา
เราก็โมโห
“ตกลงพี่หลุยสื กับพี่อะตอมเป็นเพื่อนกันจริงหรอ”
พี่หลุยก็ตกใจ แล้วพูดว่า “ เป็นเพื่อนสิ แค่เคยมาค้างครั้งสองครั้งตอนเมาแค่นั้น คนอื่นก็มาหลายคน ”
เราก็เถียงกัน ดังมาก พี่หลุยส์ เลยกระชากเรามาจะจุบเรา แต่ตอนนั้นโมโหมาก (คือตอนอื่นเอ็งไม่ทำ มาทำตอนโกระ ไม่มีอารมณ์ฟินดิแว๊) แก่ก็กอดแล้วก็ ไซร้จะไซร้ พ่อเป็นงูหลามรึไง ไซร้ เก่งมาก
แล้วก็ก้เมามาก บอกว่ารักเรา จะจูบ เราก็เบือนหน้าหนี คือทั้งโมโห น้อยใจ ไม่เข้าใจ คือนังผุ้หญิงออกหน้าออกตามาก โพสเพลงถึงกัน มานอนค้างห้องอีก มีกุญแจห้องกันอีก เราไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
ไอ้ม่วงที่วิ่งตามลงมาเห็น ( ผู้ชมอาจคิดว่า มันจะวิ่งมาต่อยตามสไตล์ พระเอกใช่มั้ยคะ เปล่าเลยค่ะ มันวิ่งมาดึงแขนเรา แล้วถีบค่ะ อ้อไม่ได้ถีบเรานะ ถีบไอ้พี่หลุยส์ปลิวเลยค่า ) แล้วก็ชุลมุนกันจนน้องแต้วมาแยก หน้าเราเหมือนโดนเล็บพี่หลุยส์เฉี่ยวๆ ตอนโดนกระชาก เลือดไหลซิบตรงใต้ตาง่ะ ตอนนี้ก็ยังเป็นแผลเป็นจางๆอยุ่เลย
ไอ้ม่วงไม่พูดพร่ำทำเพลงค่า
พาหนุซ้อนมอไซต์ ขับออกมาเลย หนูก็เงียบ คือสับสน งง
( เหมือนมุงลืมน้องแต้วนะ ไอ้ม่วง )
พอมาถึงบ้าน
เราก็เซๆ แต่มีสตินะ เราบอกมันให้กลับบ้าน มันก็ไม่กลับ มันบอกจะไปส่งเราขึ้นห้อง เราก็ เออๆ ตามใจเอ็งล่ะ
ตอนนั้นไม่คิดอะไรนะ เรื่องพี่หลุยส์สับสนในหัวไปหมด
พอถึงเตียง
เราก็ล้มแบบ พับอ่ะ คือจะตีสี่แล้วมั้ง เมาด้วย พอนอนไปซักพัก เรารู้สึกอุ่นๆ พอค่อยๆมีสติขึ้น เราก็นอนตะแคงอยุ่ แต่รู้สึกมันอุ่นมาก แล้วขยับตัวไม่ได้ มะม่วงนอนกอดเราอยู่ ตัวมันใหญ่ แล้วเราก็ดินไม่ได้
หลังเราพิงอยู่กับหน้าอกมัน หัวก็หนุนอยู่บนแขนมัน
ส่วนแขนอีกข้าง มันก็กอดทั้งมือ ทั้งตัวเราดันชิดอกมัน
“นอนนิ่งๆนะ แค่คืนนี้เท่านั้น” มันจูบผมเราจากด้านหลัง เรางี้ตัวแข็งเลยยย แต่ไม่กล้าพูดอะไร มันก็ กระชับตัวเราเข้าหามันอีก
แต่เรารู้สึกอุ่นมากๆ ไม่ใช่อุ่นแค่ข้างนอก แต่มันอุ่นมาจากข้างใน ในใจเราอุ่นจริงๆนะ แล้วเราก็จำไม่ได้ว่า หลับไปตอนไหน
เราตื่นเช้ามา แบบหนาวมาก
มาดูแอร์ 19 องสา
แล้วไอ้อุ่นๆเมื่อคืนมันยังไงกันแน่ พอสมองแจ่มใส ความคิดก็มาเต็มเลย
เรารู้สึกร้อนมากๆ หน้าต้องแดงอยู่แน่ๆ
เราเลยส่งข้อความไปหามะม่วง ” ไอ้คนเนรคุณ เอ็งบังอาจมาก ครั้งนี้ข้าจะคิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น โมโหๆๆๆๆๆๆๆ ”
เงียบไม่มีข้อความตอบกลับ คือปกติแค่ส่งข้อความ มะม่วงจะต้องวิ่งแจ้นมาบ้านเราทันที
เงียบ
เราก็ไปทำนุ่นทำนี่ แต่ก็หันมาเช็คมือถือตลอด
แต่เงียบจริงๆ
เรามองห้องมะม่วง ก็เห็นแอร์ มันหมุนๆอยู่ คิดว่ามันคงยังไม่ตื่น
เราเลยเดินไปบ้าน มะม่วง ตรงข้ามนี้เอง เดินสิบก้าวก็ถึง
ไปถึงเราก็เห็นรถมันจอดอยู่
เราเลยวิ่งเข้าไปหลังบ้านไม่มีคนอยุ่ข้างล่างเลยล้วงกุญแจ ที่รองเท้าผ้าใบมาเปิด
บ้านเงียบสงสัยแม่ของมะม่วงไปข้างนอก
เราก็เลยเดินขึ้นไปชั้นบน
เราก็เคาะห้องมัน
ก็ไม่มีเสียงตอบเราเลยตะโกนว่า
“ไอ้เบื๊อกนี่ ไม่ได้ยินหรอไงห๊ะ เปิดสิ ตื่น หิวข้าวแล้วไปหาไรกินกัน” แล้วเราก็เลยทุบๆ มันไม่เปิด
เราเลยวิ่งกลับบ้านไปเอากุญแจห้องมัน คือเรามีนานแล้ว มะม่วงก็มีของเรา
เราวิ่งกลับมาเปิดด้วยความเร็วสุดยอด
อัพยาวๆเลยค่ะ บางส่วนเราตัดออก เพราะมันเยอะมาก
เปลี่ยนมาเล่าสั้นๆแทน เหลือรายละเอียดเฉพาะ ตอนที่เห็นว่าเกี่ยวกับประเด็นนะคะ
………… เราตื่นเช้ามา แบบหนาวมาก
มาดูแอร์ 19 องสา
แล้วไอ้อุ่นๆเมื่อคืนมันยังไงกันแน่ พอสมองแจ่มใส ความคิดก็มาเต็มเลย
เรารู้สึกร้อนมากๆ หน้าต้องแดงอยู่แน่ๆ
เราเลยส่งข้อความไปหามะม่วง ” ไอ้คนเนรคุณ เอ็งบังอาจมาก ครั้งนี้ข้าจะคิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น โมโหๆๆๆๆๆๆๆ ”
เงียบไม่มีข้อความตอบกลับ คือปกติแค่ส่งข้อความ มะม่วงจะต้องวิ่งแจ้นมาบ้านเราทันที
เงียบ
เราก็ไปทำนุ่นทำนี่ แต่ก็หันมาเช็คมือถือตลอด
แต่เงียบจริงๆ
เรามองห้องมะม่วง ก็เห็นแอร์ มันหมุนๆอยู่ คิดว่ามันคงยังไม่ตื่น
เราเลยเดินไปบ้าน มะม่วง ตรงข้ามนี้เอง เดินสิบก้าวก็ถึง
ไปถึงเราก็เห็นรถมันจอดอยู่
เราเลยวิ่งเข้าไปหลังบ้านไม่มีคนอยุ่ข้างล่างเลยล้วงกุญแจ ที่รองเท้าผ้าใบมาเปิด
บ้านเงียบสงสัยแม่ของมะม่วงไปข้างนอก
เราก็เลยเดินขึ้นไปชั้นบน
เราก็เคาะห้องมัน
ก็ไม่มีเสียงตอบเราเลยตะโกนว่า
“ไอ้เบื๊อกนี่ ไม่ได้ยินหรอไงห๊ะ เปิดสิ ตื่น หิวข้าวแล้วไปหาไรกินกัน” แล้วเราก็เลยทุบๆ มันไม่เปิด
เราเลยวิ่งกลับบ้านไปเอากุญแจห้องมัน คือเรามีนานแล้ว มะม่วงก็มีของเรา
เราวิ่งกลับมาเปิดด้วยความเร็วสุดยอด
พอเปิดเข้าไปเท่านั้นแหล่ะ
เราเสียใจมากที่เรามีกุญแจห้องมัน
ภาพที่เราเห็นคือ มะม่วงนอนหลับอยู่ มีผ้าห่มปิดท่อนล่าง
หนุนตักน้องแต้วที่ห่มผ้มเช็ดตัวผืนเดียวอยู่
นางหันมายิ้มให้เรา แล้วบอกว่า “อุ้ย พี่หมวยเล็กให้แต้วแต่งตัวก่อนสิคะ” เรางี้ทำไรไม่ถูกเลย
เมื่อคืนความอบอุ่นแบบนั้นเกือบทำเราหวั่นไว แต่พอเช้ามามะม่วงมานอนกับแต้วเนี่ยนะ
เราแบบ สับสน ความรู้สึกตัวเองมาก
ไอ้นี่ก็ตื่นถูกเวลาจริงๆ มันตื่นแล้วมันก็รีบลุก มันดูตกใจมากๆ
มันเรียกชื่อเรา “หมวยเล็ก” เราก็แบบ สะบัดหน้าหนี แล้ววิ่งกลับบ้านเลย
เรางงมากเราจะวิ่งทำไม นั่นเพื่อนเรา กับแฟนนอนด้วยกันมันเรื่องปกติ
เรางงกว่าเดิมว่าเราร้องไห้ทำไม
อาทิตย์ต่อมาเราขาดเรียนไปสามวัน ขอแม่ว่าทะเลาะกับเพื่อนขอไปบ้านย่ากับปู่ซักสองสามวัน
แม่ดูโอเคน่ะ ถามแค่ว่าทะเลาะกับมะม่วงหรอ
หลังจากนั้นก็ใกล้สอบ เราไม่ได้คุยกับมะม่วงอีกเลยจนจบ เทอม
มะม่วงมาหาที่บ้านเราก็ไม่คุย โทรมาไม่รับ เราเปลี่ยนเบอ เจอที่โรงเรียนเราก็เดินหนี
ยอมรับว่า ไม่รุ้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นบ้าอะไร
พอปิดเทอมขึ้นม.6 ย่าเราเป็นเบาหวาน ต้องตัดขา เราอาสาไปดูแล
จนขอแม่ว่า เราอยากย้ายโรงเรียนไปอยุ่ใกล้ๆ ย่าจะได้ดูแลย่า
แม่โอเค แต่ก็ห่วงว่าย้ายกลางเทอม การเรียนจะเป็นไงบ้าง
เราย้ายมาอยู่โรงเรียนอีกที่ ตอนเปิดเทอม
เราจะอาบน้ำให้ย่า เช็ดตัวให้ย่าตลอด เพราะปู่ก็แก่
ปู่ชอบพูดว่า
” ลำดวนเอ้ย ปู่โชคดี มีหลานน่ารัก ” เรามาอยู่กับปู่กับย่าก็สนุกมากๆ ย่ากำลังใจดีมาก
ไม่เสียใจเลยที่ถูกตัดขา ย่าบอกว่า เสียขาไปข้างได้อยู่กับลูกนานอีกหลายปี ย่าโอเคเบย ย่าบอกแบบนี้
มะม่วงหายไปจากชีวิตเรา เราเลิกเล่นhi5 หันมาทำความรู้จักกับพี่มาร์ค ซักเคอเบอร์ก
แต่ก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมายอะไร มีเพื่อนเก่าไม่กี่คน ก็มัธยมพี่เพื่อน ผู้หญิงสี่ห้าคนเอง นอกนั้นก็อยู่กับมะม่วงตลอด
เราอยู่กับปู้กับย่า กลับไปหาแม่บ้าง เดือนละครั้ง แต่ไม่ได้เจอมะม่วงเลย
จนตอนเราขึ้นปีหนึ่ง เราอยากไปเรียนกรุงเทพ พอยื่น gatไป เราก็ติดเลย
ตอนนั้นเต็ม 300 เราได้ 292นี่แหล่ะ ถือว่าค่อนข้างสูง ก็เลยติดคณะที่ชอบ
เหตุการสำคัญมันเกิดตรงนี้แหล่ะค่ะ
เราลืมมะม่วงไปแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งกับการติว การสอบ
เราโชคดีติดม.เดียวกับเพื่อนผู้หญิงโรงเรียนเดิม
แล้วก็เพื่อนที่โรงเรียนใหม่ก็ไปด้วยกัน แต่เพื่อนติดรอบอื่น
ดีใจมาก ตื่นเต้น วันไปซื้อชุด นักศึกษา ก็ไปกับเพื่อนๆ สนุกมากจริงๆ
จนลืมเรื่องมะม่วงไปสนิทเลย (เป็นลูกพี่ที่แย่มาก ถ้าเอ็งเข้ามาอ่าน ข้าขอโทษนะเว้ย ^^ ที่ลืมเองไปชั่วเวลานึง)
ตอนแรกเราเกือบเชื่อเรื่อง พรหมลิขิตนะ
วันรายงานตัว เราเจอมะม่วง…
เราก็ยิ้มๆให้ มะม่วงเดินตรงมาหาเรา คว้าแขนไว้ แล้วพูดว่า “ทำไมไม่ยอมเจอกัน ไหนว่าจะไม่ทิ้งไง ไหนว่าจะให้เป็นลูกน้องเบอร์หนึ่งตลอดไป”
เราก็อึ้ง คนก็เยอะ
เราเลยแบบ “เงียบๆดิ ไอ้เบื๊อกนี่หนิ เดี๋ยวเอารองเท้ายัดปาก” เราวางก้ามเหมือนเดิม มันเลยหัวเราะ แล้วขะยี้ผมเรา เราก็ค้อนมันหน่อยๆ
แต่ในใจดีมากกกก
หลังจากนั้น เราก็แลกเบอร์ ม่วงยังใช้เบอร์เดิมและเราจำได้
คืนนั้น เราคุยกันเกือบเช้า เล่าเรื่องเยอะแยะ ที่ไม่ได้เจอกันปีกว่าๆเลย มะม่วงก็เล่าว่า ม่วงเลิกกับน้องแต้ว
เพราะน้องเค้าไปคบไอ้พี่ผู้ชายที่ยืนลูบแขน หน้าห้องน้ำอ่ะ มะม่วงก็บอกว่าไม่ได้เสียใจนะ แค่ตลกๆ
เราก็เล่าว่า เราย้ายโรงเรียนไป เราก็ห่างกับพี่หลุยส์ หายไปเลยไม่ได้มีการบอกเลิกอะไร แกก็คบคนใหม่ไปเรื่อยๆ เราก็ถือว่านี่คือการจบละกัน
ก็ไม่เสียใจนะ ไม่เคยจูบกันด้วยซ้ำ
แต่เราสองคนเลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องคืนนั้น เราแกล้งทำเป็นลืม
เราอยากให้มิตรภาพกลับมาเหมือนเดิม ยอมรับว่าคิดถึงมะม่วงมาก
ไม่มีมะม่วงในชีวิตก็เหงาๆ เศร้าด้วย ถึงจะแอบลืมไปบ้าง แต่ก็คิดถึงแหล่ะ
เราก็เล่าไปว่า เราคุยกับคนคนนึงอยู่เหมือนกัน ชื่อ ฟรอยด์ (อิหมวยนี่ผู้ชายไม่ขาดพูดเลย)
มะม่วงก็อืมๆ ถามคำถามทั่วไป แล้วก็ถามเราว่าจองหอยัง เราก็ตอบว่าปีหนึ่งต่องอยู่หอในป่าว
นก็บอกว่า ใช่ แต่ส่วนใหญ่เค้าอยู่กันสองสามเดือนก็ไปอยู่หอนอก
มะม่วงถามว่าอยู่คอนโดชื่อ …… มั้ย ไม่แพง วิวสวย เห็นน้ำด้วย เราก็โอเคนะ ได้เจอเพื่อน กะว่าจะชวนเพื่อนผู้หญิงไปด้วยหารกัน
ช่วงนั้น ก็เจอกันทุกวัน เพราะหลังจากรายงานตัวเราก็กลับมาอยู่กับแม่
รอเวลาเปิดเทอม ก็ไปเที่ยวทุกวัน ไปกินขนม ไปดูหนัง
มะม่วงก็มาค้างบ้านเราบ่อยๆ แม่เรารักมะม่วงมาก
แม่ของมะม่วงก็บอกว่าตั้งแต่หนูย้ายไป มะม่วงก็ไม่ค่อยพูดเลย
สงสัยคิดถึงหนู ดีนะ ที่ตุ๊กตา มาบอกว่าหนูเข้า ม. ….. มะม่วงเลยไปสอบด้วย
อ้อออ ไม่ใช่พรหมลิขิต สินะ เป็น มะม่วงลิขิต ซะง้านนนนนน
แหม่ะๆ ไอ้เรา มโนไปไกล
เราก็พามะม่วงไปเจอ ฟรอยด์ ผิดคาดมาก มะม่วงไม่มีกิริยาอะไรแบบที่ทำกับพี่หลุยส์เลย
ดูเข้ากันดีมาก ทั้งเรื่องเพลงเรื่องเกมส์ เรื่องหนัง
เราก็ชวนกันไปเที่ยวก่อนเปิดเทอม
มีน้ำตาล ปาล์ม มะม่วง ฟรอยด์ เรา ไปสังขระบุรีกัน ( ขอแม่แทบตาย พอบอกมะม่วงไป โอเคเฉยเลย )
จากนั้นก็เตรียมตัว ก่นวันเดินทาง เราต้องไปขึ้นรถทัวส์ ตอนหกโมง มะม่วง กับ น้ำตาล มานอนบ้านเรา
ดูหนังจนดึก เราเลยไปแปนงฟัน
มะม่วงเลยมาแปรงด้วย
ก็ยืนแปรงฟันกันหน้ากระจก มะม่วงก็จ้องหน้าเราในกระจก เราก็แหวใส่ ด่ามะม่วงว่าไอ้ลูกกระจ๊อก ถือดีอะไรมามองหัวหน้าแบบนี้
มะม่วงก็เอาแปรงสีฟันในปาก มาป้ายหน้าเรา เราก็เลยเอาคืน เล่นกันไปกันมา
มะม่วงก็เลยดึงเรามากอดไว้ คือเรารู้สึกเลยว่ามะม่วงสูงขึ้น
แต่เราสูงออกข้างๆแทน
เราถูกกอดอยู่แบบนั้น แล้วมะม่วงก็พูดขึ้นว่า “คิดถึงมากเลย รู้ใช่มั้ย”
เราก็ไม่กล้าขยับ มันคงจะโรแมนติกมาก ถ้าหน้าเราไม่เต็มไปด้วยยาสีฟันเป็นฟองเต็มหน้า
ซักพักนึงมะม่วงก็คลายออก เรางี้ทำตัวไม่ถูกอีกล๊าวววว
“อะไร หัวหน้าไม่เคยกอดน้ำตาลหรอ ” เอ็งยังจะถาม
” เคยดิ ” เราตอบ
” เพื่อนกันกอดกันไม่ได้หรอ กอดกันนี้แสดงความรักนะ ม่วงรักหัวหน้า ม่วงก็กอด เพื่อนกอดเพื่อน” เอ็งก็อธิบายยืดยาว
แต่ข้าไม่มีสมาธิฟังเลย
เรารีบล้างหน้าแล้วก็ไปนอน เราสามคนก็นอนเรียงกันจนนาฬิกาปลุก ปลุกน่ะแหล่ะ
สังขระบุรีงามมากข่าาาา จำได้ประมานว่า เรามาถึง กทม. ตอนเที่ยง นั่งรถหกชั่วโมงเลย แล้วก็ ต่อรถมาสังขระ เกือบๆ สี่โมง
แต่ฟ้าสว่าง แดดออก ฟินมากข่าาา
ฟรอยด์ เป็นผู้ชายในฝันเลย ขี้เล่น ชอบแย่ ชอบลูบหัว มะม่วงก็ดูโอเคกับฟรอยด์
เราดีใจมากที่สองคนที่เรารัก เข้ากันได้ดี
เรานอนเกสเฮาส์ กัน พอเก็บของ
แล้วไปนั่งชิวกันที่ กราฟ ค่าเฟ่
ก็เดินเล่นที่สะพานถ่ายรูปกัน สนุกมากๆค่ะ
ฟรอยด์ ขอเราเป็นแฟนต่อหน้าเพื่อนๆ เราก็ตกลง ทุกคนแซวใหญ่เลย
แม้แต่มะม่วง ก็ยิ้มๆ
^^
กลางคืนนั้น เราก็ปาร์ตี้กัน
ฟรอยด์ก็ขอให้มะม่วงเล่าเรื่องเราสมัยเด็กๆ มะม่วงก็เล่าว่า
” เมื่อก่อนผมขี้กลัวอ่ะ เวลาโดนแกล้งก็จะะวิ่งไปหา หัวหน้าให้หัวหน้าไปช่วย หัวหน้าไปช่วยตลอดเลย
อยู่กับหัวหน้าแล้วรู้สึกปลอดภัย ตอนนั้นรู้สึกหัวหน้าตัวโตมาก ”
มะม่วงพูดยิ้มๆ แน๊ะ มีใช้ผงใช้ผม ดีมาก พูดอีกๆๆๆ
” แต่ทำไมไม่รู้เดี๋ยวนี้ตัวเล็กลง ” มะม่วงพูดแล้วหันมามองเรา
เรากำลังจะด่า แต่ก็เงียบไว้ ไม่อยากให้ฟรอยด์เล่ยเราหยาบคาย ไอ้มะม่วงก็เลยพูดต่อ
“สงสัยเป็นพันธุ์ แคระน่ะ” คราวนี้เราปรี๊ดเลย
“ไอ้เบื๊อกหนิ เดี๋ยวเหอะเอ็ง” เราลุกขึ้นพรวด แต่ฟรอยดืก็บอกใจเย็น
โอเคค่ะฟรอยด์ขา ฟรอยด์ว่าไม่ หมวยก็ว่าไม่ค่า
ฟรอยด์ก็ให้ มะม่วงเราเรื่องขำๆให้ฟัง มะม่วงก็พูดเยอะมาก พูดมากกว่าปกติ
จนเราด่าว่า หุบปากไปหลายรอบ
ฟรอยด์ก็บอกว่า
” ตอนเห็นหมวยเล็กพาม่วงมา นึกว่าจะเจอคนคู่แข่งที่น่ากลัวซะแล้ว เลยแกล้งขอเป็นแฟนต่อหน้าทุกคน”
มะม่วงก็ยิ้ม แต่เรายิ้มไม่ออก คือท่านผู้ชมคะ ย้อนไปอ่านบันทัดข้างบน ฟรอยด์ใช้คำว่าแกล้ง
ตกลงมุงอยากเป็นแฟนตูป่ะวะ หรือแค่ดูปฏิกิริยา คู่แข่ง
เราเงียบ .. คนอื่นก็หัวเราะ ม่วงมองหน้าเราตลอดเลย คงจะจำอิทธิฤท เราได้
พอดีกับฟรอยด์ พูดขึ้นมาว่า ” แต่ดีใจนะ ไม่นึกว่าหมวยเล็กจะตกลงเป็นแฟนง่ายๆ ฟรอยด์ดีใจจริงๆ”
ตกลงดีใจ หรือ เราใจง่ายฟะ
มะม่วงฟังก็เงียบๆ แล้วเดินอ้อมมาด้านหลังเรา จากนั้นก็เอาแขนเอื้อมพาดไหล่เรา (เกือบโดนนมอึ๋ยยยย)
ดึงเข้าหาตัว เรียกว่ากอดมั้ง
” ดูแลดีๆนะฟรอยด์ น่ารักแบบนี้ ผมก็อยากลองแย่งมาแล้วสิ ”
ผ่างงงงงง!
×
แล้วก็เอาคางมาไถๆหัวเรา ทุกคนเงียบ สิคะ
“เมาแล้วไปนอนดีกว่า” แล้วมันก็จุ๊บผมเรา แล้วเดินไปหน้าตาเฉยเลยยย
ไอ้เบื้อกกก เองได้ตายแน่
ค่ค่ะ
หลังจากมะม่วงไปนอน
ทุกคนก็คุยกันปกติ
ฟรอยด์ก็ไม่ได้ว่าไง เราก็สงสัยอยู่นะเป็นผู้หญิงตบกันแล้ว นี่ฟรอยด์พูดแค่ว่า
” นึกว่าเงียบๆ ที่จริงกวนทีนใช้ได้เลยนะเนี่ย”
น้ำตาลกับเพื่อนอีกคนชวนเล่นต่อเพลง
( วัยรุ่นสมัยนี้ไม่มีโมเม้นต่อเพลงสินะ ) ก็ร้องกันเล่นๆ ฟรอยด์ก็บ่นๆ ว่าถ้ามีกีตาร์น่าจะสนุกกว่านี้
เราลืมอ่า ว่าแอบนอยด์ไอ้คุณฟรอยด์อยู่
ในใจมันรู้สึกแปลกๆ
ในตอนนั้นเรารู้นะว่าเรารักมะม่วง
ไม่ได้ใสอะไร แต่เข้าใจว่ารักแบบ
มิตรภาพแน่นแฟ้นลูกผู้ชาย
มุงตายกุตาย แบบนี้อ่ะ
แต่มันมีความรุ้สึกแย้งๆในตัวเอง
เราก็สรุปเอามั่วๆว่า
เราคงชอบให้มะม่วงกอดมั้ง
(จขกท แ ร ด แต่นิสัยคบได้นะท่านผู้ช๊มมม
แค่ชอบโดนไอ้ม่วงกอดเฉยๆ ไม่คิดไรเร้ยย
ใสป่ะล่ะ)
เช้ามา พวกเราตื่นแต่เช้าจะไปดูหมอก ก็สวยสมใจ
สาวๆมอญยิ้มเก่ง เวลาเดินจะเทินของไว้ข้างบน
พวกเราก็ลองมั่ง เราอดชำเลืองมองมะม่วงไม่ได้
จนฟรอยด์ คงเห็น เลยเดินเอามือมาคล้องคอเรา
เราก็คุยกันแกล้งกัน ฟรอยด์ตลกแล้วก็สร้างเสียงหัวเราะให้ได้มากๆ
อาจจะมีคำแย่ๆออกมาบ้าง แต่นั่นคือธรรมชาติของฟรอยด์
พอสายๆหน่อยเราไปนั่งกินก๋วยจั๊บ
โต๊ะมันเป็นโจ๊ะพับสังกะสี
นั่งได้ฝั่งละสองคน
อีกคนนั่งหัวโต๊ะ
เราก็นั่งฝั่งนึง
น้ำตาลไปเสิร์ฟน้ำ ( เมื่อคืนนี้น้ำตาลบอกว่าขอคุยส่วนตัวหน่อย)
ปกติมะม่วงจะต้องนั่งข้างเราเสมอ ตั้งแต่เล็ก เพราะม่วงเป็นคนสนิทที่สุด เป็นสุดยอดของเบ๊ ถ้าใครมีมะม่วงพกไว้ รับรองสบายไปห้าร้อยอย่าง
มันก็กำลังจะนั่งข้างเรา
ฟรอยด์เลยใช้เท้าเขี่ยเก้าอี้ออก
คือม่วงเกือบนั่งอ่ะ
เพิ่อนๆเลยบ่นว่าอย่าแกล้งกัน
ฟรอยด์เลยพูดว่า
” ให้แฟนนั่งข้างแฟนดีกว่านะฮาฟฟฟ”
ฟรอยด์ยิ้มตาหยี
(ชอบจังคนมีลักยิ้ม)
“นั่งตรงข้ามก็ได้หนิจะได้จ้องตาเวลากินข้าว”
เห้ยไอ้ม่วงสวนแฮะ
คือก่อนหน้านี้ ทำตัวดีมาก แต่หลังจากเมื่อคืน มันแผลงฤท ตลอดดดด ไอ้นี่
ความผิดเก่ายังไม่ลงฑัณ (ผิดไม่ถูก ตกไทย ง่อยอิ้ง)
ความผิดใหม่ ก็มา โดนแน่ค่ะ เราสัญญา
แต่เชื่อมั้ย น้ำตาลมาเสิร์ฟน้ำแล้ว
ก๋อยจั๊บมาแล้ว
ไอ้สองวานรก็ยังไม่นั่ง
ถ้าอีกคนเป็นเฮ้งเจีย อีกคนก็หนุมานล่ะ ไม่ยอมกันเลย
ยืนขนาบข้างซ้ายขวา
ตูไม่ใช่ของนะเฟ้ย
เราก็เริ่มปุดๆละ ขึ้นง่ายมาก ตอนนี้ก็ยังแก้นิสัยนี้ไม่ได้
เลยลุกขึ้นมานั่งหัวโต๊ะ
“ฟรอยด์คะ นั่งฝั่งนี้นะ” เราชี้ไปทางซ้าย
“ไอ้เบื้อกคะ ถ้าคุณมุงจะไม่กรุณานั่ง
คุณก็กรุณา อย่าเกะกะ”
เราเสียใจที่พูดแบบนั้น แต่เราติดนิสัยข่มมันมาแต่เล็ก มันก็ไม่เคยโกรธ
สรุปเราก็นั่งหัวโต๊ะ มีสองวานรซ้ายขวา
เป็นทั้งพระราม พระถังในร่างเดียวกัน
เอิ่มมมมมมมม~~~
ยกนี้สงสัยฟรอยด์จะวิน
เราก็กำลังจะกิน ฟรอยด์เลยโรยพริกไทยให้
เราก็ช็อก เอ่ออออ พริกไทย
เราก็ยิ้มๆ เกรงใจไม่อยากให้เสียหน้า
เลยจะตักเข้าปาก
ก็โดนตะเกียบขวางช้อนไว้ซะงั้น
“หัวหน้าไม่กินพริกไทย แค่นี้ไม่รู้หรอ”
น ่อววววว มันสวนหมัดซ้ายให้ฟรอยด์แล้ว
สู้เค้าดิฟรอยด์
“เอ้าหรอ ไม่เป็นไร เรามีเวลาเรียนรู้กันอีกเยอะเนอะ ” ฟรอยด์หันมาหาเราแล้วยิ้ม
เลื่อนถ้วยจองเรา สลับกับของมะม่วง
แล้วก็โรยพริกไทยเพิ่มให้มะม่วง
“ส่วนม่วงก็กินเยอะๆนะ จะได้โตๆ เป็นเด็กไม่เกเร”
ฟรอยด์ ปล่อยฮุกกกกก
พวกเอ็งก็เด็กทั้งคู่ละฟะ
….
พอกลับมาที่พักน้ำตาลห็เข้ามาคุยว่า
เราน่ะยังไงกับมะม่วงกันแน่
เรานี้ตีลังกายันเลย
ว่ามะม่วงยิ่งกว่าพี่น้อง
น้ำตาลบอกว่า ห่วง เพราะถ้าเป็นแบบนี้ มะม่วงจะกันทุกคน ออกจากชีวิตเรา
เราต้องคุยให้เข้าใจ
เพราะฟรอยด์มาปรับทุกข์กับน่ำตาล
ฟรอยดิ์บอกว่า
จีบหมวยเล็กว่ายากแล้ว
แต่เข้าถึงหมวยเล็กนี่ยากมากนะ
เหมือนฟรอยด์เข้าไม่ถึงเราเลย
ตอนนั้นเราก็ยังดีใจที่ได้เจอมะม่วง
แต่ที่น้ำตาลพูดก็น่าคิด
……….
แอบมาบอกเวลานัด จะได้ไม่ต้องรอเก้อ
จะมา10 โมงนะคะ ไม่เกิน10โมงครึ่ง
เข้าใจคนรอ
: ) เราก็คนนึง ที่กำลังรอ..
หลังกลับมาจากเที่ยว พวกเราก็ต้องเรียมตัวย้ายของเข้าหอ
เราไม่อยากใช้คำว่า พวกเรา เท่าไหร่หรอก
ส่วนใหญ่เป็นแม่เรา แม่มะม่วง กับมะม่วงคอยจัดการให้ว่าขาดอะไร
ตอนนั้นเราอ่ะหรอ ก็ไปทำสีผม ยืดโคน ดัดปลาย ( เสียไปพักนึง พลาดๆ ) คืออยากบริ๊งสุดๆ ชั่วโมงนั้นเรามีหน้าที่ดูแลตัวเอง เพื่อเข้ามหาลัยน่ะ 555555
วันย้ายเข้าหอใน มะม่วงก็ขนของเราก่อน
เรามีเพื่อนที่มาด้วยจากโรงเรียนตอนมใ6 อยู่คณะเดียวกันสาขาเดียวกันชื่อ พลอย
ตอนแรกพลอยกับเราอยู่คนละห้อง ก็ไปวิ่งแลกห้อง เพื่อให้พลอยมาอยุ่ห้องเดียวกัน (แหะๆ)
พอแลกได้ พลอยก็ขนของมา มะม่วงก็ช่วยพลอยขนของด้วย นักรักเจ๊งงงงงงงงงงงงง
หลังจากนั้นมะม่วงก็ไปจัดการเข้าหอตัวเอง ม่วงมาเรียนคณะเดียวกัน แต่อยุ่คนละสาขา สาขาม่วงต้องเก่งเลข
เราเก่งวิชาเดียวคือ ชีวะ เคมีก็ได้หน่อย ส่วน ฟิสิกก์ ลาตายแพร๊บบบบบบ
ลืมบอกไปว่า … ฟรอยด์ก็อยุ่ ม. เดียวกัน เรียนบริหาร หลังจากเลิกกิจกรรมคณะ วันไหนว่าง ฟรอยด์จะขับมอไซ มารับเรา ไปกินข้าวบ้างดุหนังบ้าง ฟรอยด์มีรถยนต์ เพราะเวลามารับเราจะเอามอไซมาแทน จะได้ไปสองคน
แรกๆ มะม่วงดูหัวเสียมาก “ หัวหน้าไปกับผู้ชายแบบนั้นมันหน้าเป็นห่วงนะ “
“เอ็งก็ผู้ชาย ไอ้ลูกกระจ๊อกเนี่ย เจียมตัวค่ะเจียมตัว อย่าสอนหัวหน้า “ เราเอาชีทตีหัวมัน ป้าบๆ
มันก็บ่นๆ เราก็เสียบหูฟังจ้า ฟรอยด์ ซื้อ ไอพอดให้เป็นของขวัญครบรอบ หนึ่งเดือน อิอิ กำลังเห่ออ
หลังจากนั้น มันเริ่มรู้ทัน เวลาเราจะไปกับฟรอยด์มันจะขับ มอไซ ไปรอ แล้วบอกว่า
“อ้าววว บังเอิญจังเลยหัวหน้า ม่วงกำลังอยากดูหนังพอดี” ลลลลลล มากกกกกก
ข้าพึ่งบอกเอ็งป่ะวะ ว่าวันนี้จะมาดูหนังกะฟรอยด์
เรานี่นับหนึ่ง ถึง ยี่สิบ ในใจเลย
ตอนไปซื้อตั๋วเลยต้องซื้อสามที่ ฟรอยด์อยากดู ซีท สวีท ที่เป็นสองที่ ไอ้ม่วงเลยซื้อที่ชั้นข้างล่างมา 1 แถว
เราก็ซื้อป๊อบคอนน อิอิ เราหยิบป้อนฟรอยด์ ฟรอยด์ดูมีความสุขมาก เราก็นะ สถานการณืมันดีขึ้น
พอหันหน้ามาทางไอ้มะม่วงขอขงเรา
มันหลับตาพริ้ม แล้วอ้าปาก
“ อ้า “ อ้า พ่อเองดิ เราเลยบอกว่า
ให้มาด้วยอย่ากวนทีนนะ เดี๋ยวนี้ชักเยอะ มันก็เข้ามานวดๆ แขนเรา ทุบไหล่ให้ๆ เอิ่มดีๆๆ
เอาอีกๆๆ
เฮ้ย ไม่ใช่ละ!!! แม่ะ ประจบสอพลอเนี่ยที่หนึ่ง
แล้วมันก็วิ่งจู๊ด ไปเปิดประตูโรงให้ พี่คนเฝ้าประตูก็ทำหน้างงๆ
เราก็ดูตัวอย่างหนัง ไปได้ พอถึงตอนยืนขึ้น ฟังเพลงของในหลวงของเรา ตอนเพลงจะจบ ไอ้ม่วงก็เดินออกจากแถวมาหาเราที่ชั้นบทสุด
“นั่งด้วยหัวหน้า ข้างๆม่วง ทีนเหม็นมากกกกกกกก” แล้วมันก็นั่ง แหม่ะลง ดีนะโซฟาสองคนมันกว้าง
แต่ไอ้วานรสองตัวข้างๆ ตัวยังกะยักษ์
สรุปการดูหนังวันนั้น ฟรอยด์ถอนหายใจทุก 5 นาที เราเลยจับมือฟรอยด์ไว้ตลอด
ส่วนไอ้ม่วง มันก็ดูท่าประจำทุกครั้งที่มาดูหนังแหล่ะ กอดแขนเรา เหมือนเราเป็นแม่ แล้วก็เอาหัวไถๆ ไหล่เรา
ตกลงเป็นลูกน้องหรือเป็นลูก
และเหตุการณืวันนั้น เราเลยทะเลาะกับฟรอยด์
250
เราทะเลาะกับฟรอยด์แรงมาก ฟรอยด์บอกว่า ฟรอยด์ไม่ไหวกับมะม่วงแล้ว แล้วฟรอยด์ก็มาเหวี่ยงเราค่ะ
“ หมวยเล็กก็เอาแต่พูดว่าจะ ด่ามะม่วง แต่ไม่เคยเห็นทำจริงๆซะที”
“เราก็พูดอยู่นะฟรอยด์” เราพยายามพูดดีๆ
“ถามตรงๆนะ หมวยเล็กชอบใช่มั้ย ที่มันทำแบบนี้คอยตามหวง ตามดูแล อยากเป็นคนสำคัญให้มีคนมาชอบเยอะๆแบบนี้อ่ะหรอ”
เฮ้ย แรงไปปะวะ !!!!
เรานี้นับหนึ่งถึงล้านเลย มุงพูดไม่ถูกหู ตูต่อยอ่ะ สู้ไม่ได้ก็แค่วิ่งนี้ ขาสั้นแต่ตีนผี จะลองก็มา!
“มันทำตัวยิ่งกว่าแฟนอีกนะหมวยเล้ก คิดบ้างดิ มองความจริงบ้าง”
เราก็เอ่ออ หรือว่าเราชอบแบบนี้ ชอบถูกดูแล ชอบถูกเอาใจ เรามีปมอยากเป้นคนสำคัญอยากได้รับความรักหรือเปล่านะ อาจจะใช่ก็ได้ ก็อิชั้นมันมนุษย์ธรรมดานี่คะ มันก้ต้องไม่สมบูรณ์อยู่แล้วล่ะ
เราก็พยายามควบคุมอารมรืตอบไปว่า
“คือหมวยเล็กจะพูดจริงๆนะ”
“อย่ามาพูดเลย บอกจะพูดแต่ไม่เคยพูด” เอ้าไอ้นี่ วอนละ คือถ้าไม่ติดว่าใส่กระโปรง นี่ขาคู่แน่ๆ จะอะไรนักหนาเนี่ย
“จะพูดจริงๆ พูดวันนี้แหล่ะ” เราก็บอกปัดๆ ไม่อยากทะเลาะ
“งั้นโทรดิ โทรไปบอกมันเดี๋ยวนี้ ต่อหน้าฟรอยด์ ให้ฟรอยด์ฟัง บอกว่ารู้จักขอบเขตบ้าง อย่าล้ำเส้น” ฟรอยด์บอกให้เราโทรเดี๋ยวนั้น
“เฮ้ย มันมากไปป่ะวะ คือบอกว่าจะคุย แต่ให้คุยตอนนี้มันยังคิดคำพูดไม่ออกดิ เพื่อนก็ต้องรักษานะฟรอยด์ ไม่ใช้มีแฟนแล้วก็อยู่กับแฟน ม่วงมันเพื่อนหมวยเล็กนะ จะพูดอะไรก็ต้องคิด ต้องรักษาน้ำใจมันบ้าง” ซึ่งปกติตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราออกคำสั่งตลอด ขนาดตอนประถมมีเหา ม่วงยังหาเหาให้เลย 55555555555
คราวนี้ฟรอยด์โวยวายใหญ่เลย เสียงดัง เราก็จำได้คร่าวๆว่า มีมันไม่มีฟรอยด์ หรืออะไรนี่แหล่ะ
เราเลยว่าไป “ฟรอยด์ ตั้งสติ เราเป็นแฟนกันนะ คุยด้วยเหตุผล ไม่งั้นเราจะขึ้นหอละ” เราอยากออกไปจากตรงนั้น ก่อนที่
เราจะ โคสไลน์ แล้ว ดีดีทีต่อให้ มุงเจ็บหลายวันแน่
“ถ้าหมวยเล็กไป เราจบ” ฟรอยดว่างี้ อ้าวไอ้นี่
“เฮีย ทำไมพูดงี้” เราเริ่มใจเสีย โถ่วววว พ่อหนุ่มลักยิ้มของฉันนนนน
“จบกับมันหรือกับฟรอยด์” เราก็เงียบ ไม่ตอบ
อึดใจนึงเท่านั้นแหล่ะ ฟรอยด์ก้เดินไปอ่ะ เอ็งคิดว่าเป็นพระเอกเอ็มวีหรอแว๊ เรานี่น้ำตาทะลักเลย ตะโกนเรียกก็ไม่หันกลับมา
วิ่งขึ้นไปร้องไห้ กับพลอย กับเมทในหอ คือ เราคิดว่าเรากับฟรอยด์ไปได้ดีกว่าพี่หลุยส์อ่ะ
ซึ่งขอนอกเรื่องหน่อยนะ
ปกติอยู่หอ เรามีพลอย กับเมท อีกสองคน ที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน เราจะไม่ค่อยมีคนชอบ เพราะเค้าว่าเรา แร ด 5555
วันนึงควงฟรอยด์ วันนึงควงมะม่วง แถมพี่คณะยังมาแจกหนมจีบอีก เราเลยโดนหมั่นไส้ ไปโดยปริยาย
เสื้อผ้าตากไว้ ก็ปลิวลงพื้นตลอด ร้องเท้าก็หาย จอดหน้าห้องไม่ได้เลย สังคมโหดร้ายของชะนี คิดไปถึงตอนนั้นแล้วเจ็บ
รุ่นพี่ก็เกลียดเรานะ เราไม่ทำกิจกรรม ไม่คัดดาว ไม่คัดหลีด ก็แหม่ะ ท่านผู้ชีมมม เค้าเกลียดหนุขนาดนี้ ไปทำตัวเด่นๆเข้า
โดนกระทืบแน่ๆ ชีวิตเราตอนนั้นเลยมีแค่เมท ฟรอยด์ ม่วง พลอย แล้วก้ลุงรหัส เพราะพี่รหัสตัดสาย เราไม่เข้ากิจกรรมหลายอย่าง อิอิ
เราเรียนคนละสาขากับมะม่วง (มะกี๊พิมพฺเป็นฟรอยด์ สงสัยอาลัยอยู่บ้าง 555) แต่คณะเดียวกัน วิชาที่เรียนรวมกันก็จะนั่งด้วยกัน
เพื่อนๆเราชอบมะม่วงมาก และถือว่ามะม่วงเป็นหนึ่งในแก๊งสาวๆด้วย โดยเฉพาะพลอยลี่ศรีสมร ออกอาการปลื้มออกหน้าออกตา ซื้อน้ำเผื่อกันตลอดเว
มีวันนึง นั่งเรียนอยุ่ มะม่วงถามว่า “ฟรอยด์ไปไหน ไม่เห็นเลย” แม่ะ เอ็งทำไม่รู้ วันที่ข้าทะเลาะกันเค้าเม้าแตกกันหมด
“เลิกกันละ” เราตอบเรียบๆ เสียงเราแอบสั่นมั้ง มันเลยหันมามองหน้า
“กอดกันมั้ย.. “
เฮื้อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้บร้า ไอ้วานรเผือก นี่มันห้องเรียนนะ จะขอทำไมไม่ขอตอนอื่น
เอ้ย ไม่ใช่ละๆๆๆๆๆๆ คือเราหมายถึง มันใช่เวลามั้ย
“ ไอ้กระจั๊ว เอ็งนี่ลามปามละ มันห้องเรียนนะ เดี๋ยวถีบขาคู่” เราเลยเนียบๆด่า ไอ้นี่ ชอบทำใจสั่น
“ อะไรอ่ะหัวหน้า ม่วงถามเฉยๆว่าเคยกอดกันรึเปล่า นี่คิดไรเนี่ย อย่านะ ม่วงไม่เคย อย่าให้ม่วงเป้นทาสความลามกของหัวหน้าเลย ม่วงกลัวแล้ว อย่าทำม่วง “ อินี่ สตอ มากกกกกก
เรานี้อยาก งัดส้น เท้า จรเข้ฟาดหางเข้าสะบักคอ ซักที แต่ดีที่เกรงใจร่องรอยอารยธรรมอันเหี่ยวย่นบยใบหน้าอาจารยื เรารู้สึกอยากจะกรี๊ด ที่เราสุ้อะไรมันไม่ได้เลย ไอ้นี่ปากจัดนักนะ
“โอ๊ะ แต่คงไม่เคยกอดมั้ง ปกติหัวหน้าชอบให้ม่วงกอดอยู่คนเดียว” แล้วมันก้ขะยี้ผมที่เซตมาอย่างดีของเรา
นี่มันเลิกเคารพเราตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย คือเมื่อก่อนมันไม่เคยเลยนะ แทบจะมอมกราบเข้ามา ไม่เถียง ไม่บ่น นายข้าถูกเสมอ แบบนี้เลย
เราโมโหเลย หยิกหัวนมมันแรงมาก จนมันยอมแพ้ 55555555555 รู้สึดมีอำนาจ
“แต่ถึงจะอยากกอด ก็กอดไม่ได้หรอก ม่วงคอยคุ้มครองอยู่ นี่ฟรอยด์ต้องขอบใจม่วงนะ ไม่งั้นถ้ารักหัวหน้ามากกว่านี้ ฟรอยด์ตกนรกแน่” มันยังไม่จบ
เราก็ยิ่งบีบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มันก็กลั้นเสียง “คบข้ามันเหมือนนรกหรอ เดี๋ยวหมดคาบ ข้าจะพาไปนรก” เราด่าคืน
มันเลยอมยิ้มๆ
แล้วก็เงียบๆ ไม่ต่อปากต่อคำ
มันจดอะไรไม่รู้ยุกยิกๆ แล้วยื่นมา เป้นประดาษโพสอิทเล็กๆ
“นี่แปลว่าคบกันหรอ” แล้วก็วาดรูปหน้าแดงมา
เราเลยเขียนกลับไป “มั่ว ก็แกบอกว่าฟรอยด์เหมือนลงนรกแน่”
“อื้มใช่ ถ้ามันรักหัวหน้ามากกว่านี้ มันลงนรกแน่ แต่ไม่ใช่เพราะหัวหน้านะ” มันเขียนมาตัวเล็กๆ
เราเลยหันไปถาม เพราะไร
มันก็เขียนอีกว่า “เดี๋ยวม่วงส่งมันลงนรกเองไง”
มุงขุ่ฆ่ากันชัดๆ
เราไม่ได้คุยเรื่องส่วนตัวกับม่วงเท่าไหร่ เพราะเรามีเพื่อนผู้หญิง ประกอบกับไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว
ช่วงรับน้อง คณะเราไม่มีนโยบายไปรับน้องนอกสถานที่
แต่รุ่นพี่เราเจ๋งมากๆ ไปพูดอะไรไม่รู้ จนคณะบดีอนุมัติ
ม่วงมันดีใจมากๆ เราบอกว่า ไปเขาใหญ่ ไม่มีรองเท้าผ้าใบ เราทุกคนเลยไปห้าง คือยุเนี่ยบมอล สบายกระเป๋า มีทุกอย่าง
257
แก้ไข จำผิด น่าจะเป็นแพล็ตินั่ม ไม่ใช่ยุเนี่ยนมอลค่ะ
277
เจอกัน สี่โมงเย็นนะคะ
ขอโทษนะคะ ที่ทำให้บางคน รู้สึกว่าเป็นเรื่องแต่ง สำหรับคนอ่านบางคน
แต่จริงๆ เราก็ไม่อ่านคอมเม้นนะคะ เพราะ พอเราอ่าน มีคนไม่เห็นด้วย เราก็จะพยายามหาหลักฐาน มาแสดงว่าเป็นเรื่องจริง หลายคนๆ ก็บ่นกันไปกันมา ว่ากัน
ใครใคร่อ่าน ก็อ่านนะค๊า ใครใคร่ระบาย ก็ได้เลย ใคร่ติ เราก็น้อมรับ
อย่าว่ากันเล้ยยย 55555 ชีวิตเราน่ะ สั้นนะ สั้นเกิดกว่าจะมานั่งบอกว่า ใครดี ไม่ดี
ใครผิด ไม่ผิด เราเอาเวลาไปตัดสินคนอื่น จนลืมดูวิถีชีวิตของเราเอง
ซึ่งตัวเราก็เคยเป็นนะ เดี๋ยวนี้พอใครว่าอะไรก็นิ่งขึ้น
เราทุกคนมีสิทิจะคิด ในแบบของเรา
แค่อ่านแล้ว อย่ามองข้ามคนใกล้ตัวเด็ดขาด เพราะทุกคน มีจุดลิมิตของตัวเอง
311
…………………………
วันไปรับน้องต่างจังหวัด เราเรียกมันว่า วันพาน้องเที่ยวมากกว่า 3วัน2คืน ดีงามค่ะ เรามีโอกาสได้คุยกับเพื่อนผู้หญิงอีกหลายคนที่ไม่เคยคุยด้วย
มะม่วงดูมีความสุขมากๆ พี่บางคนที่ไม่คุย ก็เริ่มคุย เรานึกว่าเราจะโดนเกลียดแต่เอาจริงๆ เพราะเราไม่เปิดใจด้วย เราจำรายละเอียดช่วงนี้ได้ไม่มาก รู้แต่เมารถ อ้วก
แต่วันที่สอง มะม่วงบอกว่า เดี๋ยวจะย้ายไปอยุ่ข้างนอก สิ้นเดือนนี้ เราเลยบอกว่า เรายังไม่ได้คุยกับเมทกับพลอยเลย
ก้พอดีพลอยมาก็เลยชวน พลอยก็โอเค เพราะมันเป็นคอนโด ไม่ได้หรูหรา เว่อวัง แต่กว้าง สบาย ก็เลยให้จองให้ พลอยบอกว่าไปด้วย ส่วนเมทที่เหลือ บอกขอเป็นจบเทอมแรกก่อนถึงจะขอพ่อแม่ ตามมา
พอช่วงใกล้สอบมิดเทอม เราก็ติวแต่กับเมท เพราะมันมี แมท1 ที่เราโง่มาก บวกเลขผิดบ่อย ไม่ใช่แค่พิมพ์บ่อยอย่างเดียวนะ
วันสอบวันแรก เราได้เพื่อนสนิทเพิ่มอีกคนนึง คนนี้เราคบกันมาจนเรียนจบเลย เราสอบอยู่ พอฝนเสร็จแล้ว
เราก้ถอนหายใจ แล้วดตะข้างหลังเราเคาะ เก้าอี้ เราหันไปเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ชอบมองหน้าเรา ชอบนินทาเราอ่ะ
นางทำหน้าแบบตายแน่ เราเลยบี่ยงตัวทำเป็นหลับ แล้ววางกระดาษคำตอบ ในมุมที่นางเห็นถนัดสุด ในความคิดเรา
ออกจากห้องมา นางยิ้มเจื่อนๆ แล้วก็ทำปาก เป็นคำว่า “แต๊งกิ้ว” ก่อนจะเดินไปหาแก๊งนาง
การสอบเป็นไปได้ด้วยดี
ในระหว่างนั้น เราก็ทะยอยขนของเข้าคอนโด แต่ยังไปๆมาๆ เพราะติดเมทด้วย ชอบเม้า ชอบคุย เมทเราติดนิยายเรื่องนึง เราก็เลยอ่าน อ่านไปอ่านมา โทรขอแม่ซื้อทั้งเซทเลย
“เพชรพระอุมา” 48 เล่ม เราแทบไม่พูด ไม่จา ไม่กิน ไม่นอน ถือหนังสือเรื่องนี้ตลอดเวลา
มีครั้งนึง เรานอนอ่านอยุ่ที่คอนโด (พลอยก็อ่าน ติดเพราะเรานี่แหล่ะ) ม่วงก็มาต้มมาม่า พอเรียกเราไม่ลุกมากินซะทีมันก็ เลยมานอนอ่านด้วย เราเลยบอกว่า ไปอ่านเล่มหนึ่งก่อน
เชื่อมั้ยคะ … ผุ้ชายตัวยังกะยักษ์ เดินถือหนังสือ เพชรพระอุมา 55555555 ไม่วาง ยิ่งกว่าอีก แล้วมะม่วงอ่านเร็วอ่ะ
เพราะอ่านทัน ก็มานั่งจี้ๆ ให้เราอ่านให้จบ จะได้อ่านเล่มนั้นต่อ
สรุปคือไปซื้อเลยจ้า ไปซื้อเป้นของตัวเอง
แล้วบทสนทนาส่วนใหญ่ของเราก็เป็นเรื่องนิยายนี่แหล่ะ วายๆ สงสัยม่วงจะสาวแตก
“หัวหน้าชอบกลอนไหนสุด “ มันถาม วันนั้นวันหยุดนอนอ่านกันที่โวฟาห้องมะม่วง
คือในเรื่องจะมีการเปรียบเปรย แล้วก้สนุกสมากอ่ะ แนะนำไปอ่านค่ะ
“อันนี้อ่ะ
เป็นการง่าย ยิ้มได้ ไม่ต้องฝืน
เมื่อชีพชื่น เหมือน บรรเลง เพลงสวรรค์
แต่คนที่ ควรชม นิยมกัน
ต้องใจมั่น ยิ้มได้ เมื่อภัยมา …. เหมือนพวกเรามั้ย คิดถึงตอนเด็กๆ” เรามองหน้ามัน
มันก็ยิ้ม มะม่วงคงคิดถึงช่วงวัยเด็กของพวกเราเหมือนกัน
เราเลยบอกว่า “กอดกันป่าว” แล้วเราก็อ้าแขน
แล้วมะม่วงกับเราก็กอดกัน ตอนนั้นสำหรับเรา เราแค่อยากไปเป็นเด็กอ่ะ ได้วิ่งเล่น ได้สนุก ไม่มีเรื่องต้องคิดอะไรเลย การกอดมันเติมเต็มความรู้สึกแหว่งๆหายๆ ได้ดีมาก
หรือเพราะคนที่เรากอด คือมะม่วงก็ไม่รู้
(นี่เค้าเรียกกอดแบบมิตรภาพนะม่วง ไม่ใช่การขอให้กอด อย่ามโน)
พอเรากอดกัน เราก็บอกว่า “พอละ ๆๆ แน่นไป อ้วกแตก” มะม่วงก็คลาย แล้วเปิดหนังสือให้เราดูหน้านึง
“ยูงทอง ล่องฟ้า เมฆิน
ถวิลหวัง ไอดิน
โบยบินสู่พื้น พสุธา
ดอกฟ้าโน้มกิ่ง ลงมา
จากสวรรค์ อาภา
ให้ดินปรีดา อาวรณ์ “ เราฟังม่วงอ่านก็เขินๆ แต่ก็เนียบๆ เรารู้ ว่าหมายถึงอะไร แต่เราว่า เป็นเพื่อนกัน เรารักมะม่วงได้ เท่าที่อยากจะรัก
ไม่มีทางเลิกกัน หรือหายกันไปหรอก
เราเลยลุกบอก “ปวดขี้ว่ะ” มันก็หัวเราะ
แล้วพูดเสียงดัง เหมือนท่องอาขยานว่า
“เปรียบประดุจหยดน้ำค้างที่พร่างพรม.
..อยู่ตามกิ่งใบพฤกษชาติ
ครั้นยามดึกก็เนืองนอง
ปานจะรองดื่มกินได้
ต่อเมื่อรุ่งปัจจุสมัยสุรีย์สีส่อง..
.น้ำค้างก็ย่อมจะระเหยเหือดหายไป
น้ำใจของเธอก็เปรียบได้ฉะนั้น…”
เราเลยตะโกนด่า ตอนเบ่งอึนั่นแหล่ะว่า “ไอ้ม่วง ไอ้ลิเก ไร้สังกัด”
…..
ช่วงนั้นติดนิยายรุนแรง เราอ่านรวดเดียว 48 เล่มเลย จนเวลาล่วงเลยเข้าสอบปลายภาค
คราวนี้ เล่าคร่าวๆคือ วิ่งหาคนติวให้แบบ สปีดเลย
ม่วงมันหัวดี ติวรอบเดียวเข้าใจ
เรานี่ ถนัดแต่เรื่องใช้กำลัง สมองเลยช้า กว่าจะล้างใหม่ได้ ก็ปีสามนู้นนนนนนน
314
เราขอโทษนะคะ อยากจะพิมพ์ยาวๆ แต่บางเรื่องก็กว่าจะปะติดปะต่อได้
เราไม่รู้ว่าตอนจบมันตอนไหน เราขอเล่าไปเรื่อยๆได้ไหมคะ จำเหตุการณ์ไหนได้ก็เล่า
เพราะคงไม่มีใครอยากฟังตอนจบของเรื่องนี้ เราเองก็ไม่อยาก ^^
อย่างน้อย ให้เราได้เล่า เท่าที่ใจเราจำได้
อาจจะยาว
อาจจะนาน
แต่เราจะบอกเวลาดีไหมคะ ทุกครั้งที่พิมพ์ เราจะบอกเวลา
จะได้ไม่รอ เราจะได้มาเจอกัน ตอนเวลานัด นั่งฟังเรื่องที่เราอยากเล่า
ฟังเรื่องที่คนคนหนึ่ง ยังมีชีวิตต่อไปข้างหน้า โดยมีความทรงจำเก่าๆ หล่อเลี้ยงหัวใจ
55555555
เวลาต่อไป สี่โมงนะคะ แล้วพบกัน
450
พอย้ายมา หอนอกแบบเต็มตัว
ไอ้การตัวติดกันก็กลับมาอีกครั้ง
พลอยก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีชีวิตชีว่ามากขึ้น
ตอนนี้คือเราได้ไปช่วยงาน ในชมรม
เราเป็นคนถือของที่ชมรมทำขาย
ซึ่งตอนนั้นเองมีบริษัทของดาราคนหนึ่งมาสั่งซื้อ เราก็ดิวให้อย่งเต็มที่
เอาเงินชมรม ไปจ้างโรงงาน ทำอีกทอดหนึ่ง
เค้าไลน์หาเราตลอด คือทำนองจีบเลย แต่ข่าวเรืองผู้หญิงไม่ค่อยดีหรอก
เราตอบตามมารยาทจนเค้าไม่ค่อยพอใจ
พอของเสร็จแล้วเราก็ส่งไปจำนวน 300 ชิ้นจาก พันชิ้น
แต่พอส่งของไปให้ทางดาราคนนั้น เค้าก็บ่ายเบี่ยง ไม่ยอทส่งใบสั่งซื้อที่มีลายเซ็นมาให้ คือเราเครียดมาก
รุ่นพี่ก็ตามเราจี้เรา ถามว่าลงทุนไปแล้ว นี่ไปตามมาให้ได้
ไม่งั้นเราต้องคืนเงินที่ลงทุน หนึ่งแสนบาท โหยเรางี้แทบร้องไห้เลย
สาบานว่าชาตินี้จะไม่ทำงานกับดาราอีก เราเชื่อ ไม่มีประสบการณ์ด้วย หลักฐานอะไรก็ไม่มี
เราร้องไห้ตลอด มีมะม่วงแหล่ะอยู่ข้างๆ
คอยพาไปถึงบริษัท ไปดักรอ เพื่อทวงของทวงเงิน
เราเครียดมาก ปีหนึ่งเองนะ ต้องมาหาเงินแสนใช้คืนชมรม
เราโดนรุ่นพี่ในชมรม ว่าทุกวัน กดดันมากๆ หาว่าทำงานไม่ดูตาม้าตาเรือ เห็นเป็นดาราก็ไปเชื่อ
เรางี้อยากเถียง แต่รู้ว่าตัวเองผิดเลยเงียบ ก็เพราะเป็นดาราแหล่ะ เลยคิดว่าคงน่าเชื่อถือ
จนสุดท้าย
ไอ้ดาราคนนี้มาบอกเราว่า ไม่ได้สั่งของจากเรา แค่เอาไปจัดจำหน่ายให้ จะจ่ายให้เฉพาะที่ขายได้
ส่วนของที่ขายไม่ได้ มาขนคืนไป
โห จำได้ว่า ส่งไปสามร้อย มันขายได้สิบ ไอ้ดดดด
แล้วอีกเจ็ดร้อยที่ทำไปแล้วล่ะฟะ
เรางี้ร้องเลย ไม่มีหลักฐานไปเอาผิด
ในไลน์มีแต่ข้อความไร้สาระที่มันส่งมา
เวลาพูดเรื่องสำคัญมันจะโทรตลอด ไม่ทิ้งหลักฐานเลย
มะม่วงเป็นคนจ้างรถ ไปขนของคืนให้ เอามาไว้ที่หอ คือของเต็มเลยอ่ะ ห้องไม่มีที่จะเดิน
แล้วก็มะม่วงอีกน่ะแหล่ะที่แก้ปัญหาให้
มะม่วงติดต่อญาติที่อะเมริกาว่า
มีของที่ระลึก พันชิ้น พอจะมีทางไหม
ญาติก็บอกว่า มันมีภาษีนำเข้าส่งออก อะไรเยอะแยะ
เค้าบอกว่า เอางี้ เดี๋ยวเค้าขายออนไลน์ให้ เพราะเค้าทำเครือข่ายที่เมืองนอก
แล้วบอกว่ารายได้ส่วนหนึ่งช่วยมูลนิธิ
จากราคา 159 พอขายออนไลนืในเมืองนอก ก็ขึ้นเป็น 399 บาท
แต่มะม่วงกับเราต้องเป็นคนส่งไปต่างประเทศ
ใช้เวลาประมาฯสี่เดือน เพราะบางคนสั่งที่ละ สองสามชิ้น บางคนสั่งห้าสิบ
เรายืมเงินแม่มาให้ที่ชมรมก่อน แล้วทยอยคืนแม่
สรุป ที่เหลือเราเอาไปให้ มูลนิธิ ที่ละสองสามหมื่น
คือปัญหาตอนนั้นหนักมาก
เราเข้าใจเลยว่า ความหมายของบทนี้คืออะไร
เป็นการง่าย ยิ้มได้ ไม่ต้องฝืน
เมื่อชีพชื่น เหมือนบรรเลง เพลงสวรรค์
แต่คนที่ ควรชม นิยมกัน
ต้องใจมั่น ยิ้มได้ เมื่อภัยมา
466
เราได้บทเรียนราคาแพงมาก
คือเราทำอะไรต้องวางแผน มีหลักฐานพร้อม และต้องมีความเข้าใจในงานที่ทำ ไม่ใช่ตื่นเต้นว่าจะได้เงินเท่านั้นเท่านี้
แต่ไม่มีวิธีทำเพื่อให้มันได้มาจริง
มะม่วงเก่งมาก
ปรบมือ แปะๆ
บทเรียนต่อมาคือการไม่ประมาณตัวเองของเราค่ะ เราคิดว่านี่แหล่ะ เราทำได้ แค่ดิวงาน ไม่เป็นปัญหา
บทเรียนต่อมาคือ ถ้าเจอปัญหาอย่าหนี ต้องพูดต้องคุย ได้ไม่ได้เป็นอีกเรื่องนึง คนหนีปัญหาจะจนตรอกเข้าสักวัน
บทเรียนอีกอันที่สำคัญที่สุดคือ ทุกข์ แล้วอย่าเหวี่ยง อย่างี่เง่า เพราะคนข้างๆไม่ผิด ตอนนั้นเราจะหงุดหงิดตลอดเวลา ด่ามะม่วงตลอด
ว่ามันตลอด คือเราอยากผลักความผิดพลาดให้ใครซักคน (แย่มากๆ)
บทเรียนสุดท้าย บางอย่างเราแก้ไม่ได้ด้วยตัวคนเดียว คนข้างๆจึงสำคัญมาก
พอผ่านวิกฤตตรงนั้นมาได้ เราโตขึ้น ใจเย็นขึ้น
และรักมะม่วงมากขึ้น
นี่แหล่ะคือเพื่อนตาย ไม่ทิ้งกันตอนมีปัญหา
เราสองคนดีต่อกันมากๆ
จนวันนึง พลอยบอกเราว่า “พลอยชอบมะม่วง”
เรานี่นิ่งเลย ก็ตอบไปว่า ลุยเลยดิ รอไร
เราสนับสนุน เพราะพลอยไม่ใช่น้องแต้ว ( เรามารู้ที่หลังว่าตอนนั้นที่แต้วถูกลูบแขน คือแต้วไปอ่อยก่อน)
พลอยเป็นคนดี เรียบร้อยมากๆ ถึงจะไม่สวยเด่นเหมือนใคร แต่ก็มีสเน่แบบที่ผู้หญิงควรจะมี
พอเราบอกมะม่วงไป มะม่วงก็นิ่งๆ
“มีแฟนแล้วเดี๋ยวก็ห่างกันอีกหรอก” มะม่วงว่า
“ห่างแป๊ะแกดิ พลอยก็อยู่ห้องข้า เอ็งมาหาพลอย ก็มาหาข้าแหล่ะ” เราบอก
“อืมจะเอาไปคิดดู” แน๊ๆๆๆๆๆ มีเล่นตัวไอ้นี่หนิ
พลอยก็ดูแลมะม่วงมากขึ้น ก็ไปไหนมาไหนกันทั้งแก๊งแหล่ะ จนพลอยเหมาไปว่าเป็นแฟนกันแล้ว
มีหลายครั้งที่เวลาเราเล่นกับมะม่วง เมื่อก่อนพลอยจะหัวเราะด้วย
แต่เดี๋ยวนี้ พลอยชอบบอกว่า
“พวกแกบ้า ผช ผญ เค้าไม่เล่นแบบนี้กันหรอก”
เราไม่เคยเข้าใจความรู้สึกพลอยนะ เพราะเราคิดแค่ว่า เรากับม่วงกะพลอยซี้กันแล้ว
วันนึงมันก็โป๊ะแตก จำเพื่อนที่เราให้ลอกข้อสอบตอนมิดเทอมได้ไหม
เค้าทักเฟสบุคมาหาเรา
แล้วบอกว่า
“เธอกับพลอย ไม่สนิทกันแล้วหรอ”
เราก็งง
“เอ้ย บ้า นี่อยู่ห้องเดียวกันคอนโดเดียวกันป่าว ไม่สนิทก็บ้าละแกร”
เค้าก็เงียบๆไป
มันขึ้นว่า กำลังพิมพ์ เป็นนาทีๆๆ เลย
สุดท้ายสรุปใจความได้ว่า
พลอยไปร้องห่มร้องไห้กับเพื่อนๆกลุ่มอื่น ว่าพลอยคบกับมะม่วงไม่มีความสุขเลย
เราเอาแต่แกล้ง เอาแต่คอยขวางตลอด บลาๆๆ เยอะมาก จำไม่ได้
แต่เรางี้ อึ้ง คือคิดสองอย่างว่า
เพื่อนคนนี้ไม่ชอบเราอยุ่แล้วคงแกล้งเราให้ทะเลาะกันแน่
อีกใจก็กลัวว่าจะใช่ เพราะพลอยชอบดุเราบ่อยๆเรื่องเล่นกัน
เราเงยหน้าจากคอม
“พลอย” เราลองเรียก กะจะถาม พลอยก็ตอบว่า
“หอื้อ ว่าไง หิวแล้วหรอ กินไข่เจียวมะ เดี๋ยเค้าเจียวให้” พลอยหันมายิ่มอ่ะ
เรางี้ ถามไปเสียเพื่อนแน่ ถึงพลอยจะพูดจริง เราก็ไม่โกรธหรอก เราต้องกลับมาดูการกระทำของเราก่อน
489
เราคุยกับเพื่อนผู้หญิงคนนั้นเยอะขึ้น แบบทักเฟสถามการบ้านกัน
ชื่อ แก้ม แก้มเล่าว่า เมื่อก่อนไม่ชอบเรา ว่าเรา อ้อร้อออ อ่าห๊ะ อ้อร้ออ ที่แปลว่าน่ารักอ่ะนะ
แก้มบอกเป็นหนึ่งในหัวโจกที่นินทาเรา
แต่พอเห็นไปนานๆ เราก็ไม่ได้ร้ายอะไร อยุ่เงียบๆ แถมตอนมีปัญหากับรุ่นพี่ ยังอดทนผ่านมาได้ แก้มเลยบอกว่าเราอาจจะไม่แย่ก็ได้
ช่วงนั้นเราไม่กดไลค์ สเตตัสพลอยเลย เพราะเรารํว่าพลอย ว่ากระทบเรา
ทำไมช่วงนั้นวัยรุ่นถึงชอบตั้งสเตตัสเฟสบุคด่ากันอ่ะ เราก็งง
พอพลอยตั้งก็จะมีเพื่อนคนอื่นๆมาผสมโรง
แต่พลอยอยู่กับเราทุกวันนะ
เราก็อดทนจนปีสองเทอมสองแหล่ะ
มหากาพย์ ก็เกิดขึ้น สเตตัสพลอยเริ่มแรงขึ้น มีครั้งนุง ไปกินเหล้าปัน 555 ร้านชิวมันเยอะง่ะ
เราก็ไปทั้งแก๊งแหล่ะ ม่วงก็ไป ก็กินกันสนุกเฮฮา
ตอนนั่งมันจะมีช่งเงียบที่ทุกคนจับโทรศัพท์ เราก็เปิดไล่ๆดูนิวฟีดแล้วเห็นสเตตัสพลอยว่า
“แค่ต้องทนมองหน้าทุกวัน ก็อยากจะผูกคอตายละ
กูนี่นางเอกสุดๆ โดนกรีดหัวใจทุกวัน”
โหเราโมโหมาก คือรู้อ่ะว่าด่าเรา แล้วก็มีคนมาผสมโรง
“ร่านเนอะ”
“จิ๋มผู้ดี ด่างพล้อยซะแล้ว”
“แกทนได้ไงวะพลอย สงสารแกมาก”
“สู้ๆนะ ไม่มีแก มันก็ไม่มีใครคบ เกาะ ผช ไปวันๆ”
คือเราอ่านแล้วน้ำตาหยดแหม่ะเลย นั่งอยู่ในวงเดียวกันแท้ๆ
“หมวยเล็ก แกเป็นไร” พลอยถาม
“พลอย แกเกลียดเค้าขนาดตั้งสเตตัสด่าเลยหรอ” เราถาม น้ำตาไหลพรากๆ
“บ้าหรอ เค้าไม่ได้ว่าแก เค้าด่าเพือนเก่า” เออ กุคงมีเขา ค วาย บนหัวมั้ง
เราก็แบบอยากกลับแล้ว ลุกขึ้น ม่วงก็ลุกขึ้นตาม มันบอกให้เราไปรอหน้าร้าน ขอไปห้องน้ำก่อน
ซักพัก มันกลับมา เราก็ซ้อนมอไซกลับห้อง เราขนที่นอนมานอนห้องม่วง
ตอนเช้าแก้มไลน์มาว่า
เค้าเม้ากันให้แซดเลย ว่าพลอยร้องไห้กลางวง ตอนที่เราลุกออกไป
พอมะม่วงเดินกลับมา ยิ่งร้อง มะม่วงเลยบอกว่า
“หยุดร้องนะพลอย พลอยน่ารังเกียจมาก ออกไปจากชีวิตเพื่อนเราเถอะ”
เท่านั้นแหล่ะนางสะอื้นเลยจ้าาาาาา
คือเรากลับห้องเฉพาะตอนไปเอาเสื้อผ้า แทบจะย้ายมาอยู่ห้องม่วงเลย
แต่เราก็ไม่เห็นพลแยกลับหอนะ
เมทเราที่ตอนแรกจะย้ายมาอยู่ด้วย ก็ลบเฟสเราทิ้ง
สรุป เรานี่หมาหัวเน่าเลย
ดีที่มีแก้ม เพื่ นแก้มอีกสองคน ชวนเรากินข้าวดูหนัง
พวกนิสัยแรงๆ เรารุ้เลยว่า คบได้มากกว่าคนที่พูดดีๆอีก
พวกนี้มีอะไรก็แสดงออก ตรงๆ เราก็สบายใจที่อยู่ด้วย
อาทิตย์ต่อมา พลอยทักไลน์มาว่า กลับห้องบ้างมั้ย
กลับที่ไรไม่เจอเราเลย
เราก็ใจอ่อน คุยไปซักพัก พลอยก็ขอโทษ ซีนดราม่ามาเต็มเลย
เรากับพลอยเลยดีกัน พลอยกลับมาอยู่ห้อง
มะ ม่งไม่คุยกับพล อยเลย
จนเราบอกว่า เป็นผู้ชายอย่าคิดเล็กคิดน้อย
มีเหตุการณ์นึงที่เราอยากเล่า
ตอนเด็กๆ เราจะชอบเล่นเปฺน อันเดอร์เทคเกอร์ (นักมวยปล้ำ ที่เพลงเปิดตัววคือเพลง แรมโบ้ แรมโบ้ ไร่นี่แหล่ะ ชอบขี่ชอปเปอร์มาตีคนอื่น) แล้วเราจะตั้งให้ มะมาวงเป็น Ken น้องชายของอันเอร์เทคเกอร์
มะม่วงไปซื้อหน้ากากเคนมาจากเน็ต เราก็เลยคิดสนุกๆ อยากย้อนวันวาน
เราก็เล่นกัน คือเจ็บจริง ตอนเราขึ้นเชือก (ขอบเตียง) จะกระโดด มาโช๊ค สแลม
มะม่วงก็แกล้งยืนมึนๆ เหมือนนักมวยปล้ำทำ พอเรากระโดด ลงมา
มะม่วงก็อ้าแขนรับ แล้วก็อุ้มเรา เขย่าๆ “หัวหน้าไม่โตขึ้นเลย”
ข้าโตเว้ย แต่เอ็งมันผิดมนุษย์ โตเร็วกว่าข้าแค่นั้นแหล่ะ ลองเอ็งนั่งดี ข้างี้สูงกว่าเยอะ
มันก็อุ้มไม่ยอมปล่อย คือเราก็โวยวายๆ แล้วมันก็ดมผมเรา
“เหม็น”
เฮือกกกก ลืมสระผม สามวันเอง
มันก็อุ้มเราแบบนั้น แล้วเอาหัวเราพาดบ่า แล้วตบตูด
“โอ้เอ๊ โอ่เอ๊ มีลูกสกปรก พ่อนี่ลำบากใจ ต้องคอยดูแล โอ่เอ๊ๆ โอ่เอ๊” แล้สมันก็อุ้มเราเขย่าๆ
เรานี่ดิ้นแทบตาย พอหลุดออกมาเราก็หันหน้าจะไปคว้าหมอนมาติด
แหะๆ สะดุดขาตัวเองจร้าา คางน้อยๆ ปะทะกับ พื้นกระเบื้อง
หัวหมุนเลยยย จำได้อีกที ก็เย็บสองเข็มค่ะ
Rollin
502
กำลังเรียบเรียงเหตุการจูบคะ
เราไม่อยากให้ยาวไปกว่านี้ อยากให้จบก่อน
บางคนจะได้ไม่ค้างคา
ส่วนจำเหตุการณ์อะไรบ้างก็จะมาพิมพ์ไว้
วันนี้ ของหลายสิปปีข้างหน้า ถ้าพันทิพย์ ไม่ลบกะทู้นี้ทิ้ง เราอาจจะแต่งงานมีลูก
แล้วให้ลูกมาอ่านว่า
แม่ของเค้ามีความทรงจำแบบไหนอยู่ คงฮามากอ่ะ
ดีเนอะ ที่มีอะไรที่เราบันทึกไว้ได้ โดยที่ไม่ได้บันทึกแบบเดียวดาย
อย่างน้อยตอนเสียใจ ต้องมีซักคนที่บอกว่า “สู้ๆนะ เจ้าของกระทู้”
5555
พูดขนาดนี้ ก็อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนนะคะ
574
เค้าว่ากันว่า หญิงไทยเสียตัวเยอะที่สุดวันลอยกระทง
เราก็แอบเห็นด้วยนะ เพราะ ชะนีอย่างอิหมวยเล็ก ก็มีโมเม้นเสียจูบเหมือนกัน
ตอนนั้นเราไปลอยกระทงกัน พี่คนนึงเรียนรัฐศาสตร์ ให้เพื่อนเดินมาขอไลน์เรา
มะม่วงก็ให้ไป มันบอกเดะให้เอง เราก็งง ตูยังไม่บอกเลยจะให้ พี่เค้าชื่อที (เราเล่าข้าม ไปหลายชอตมาก)
พวกเราก็ตามสไตล์ ลอยกระทงแล้วก็เข้าร้านเกมส์
เราอยู่ทีม มะม่วง โอม ต๊ะ โน๊ต
ก็รอทีมอื่นเข้ามา
จำได้ว่าวันสนุกมาก เรา คิลลิ่งสปรี สามรอบ
ม่วงจะเล่น สเกลตัน ไว้ขว้างฆ้อนตั๊น ส่วนเราจะเล่นสไนเปอร์ ซอยยิกเลย ออกเจาะเกราะ ออกคริใหญ่ จนได้ บัตตอร์ไฟล์
ไปจบที่ดาบทอง รอส่องคนใกล้ตาย 555555 จะไปดันครีฟทางเดียวกันตลอด
(บางคนบอกว่า ลองเล่นสไน อีกสายดู สายที่ยิงเป็นไฟฟ้าอ่ะ หมวยเล็กลองเล่นละ ไม่เวิร์ค)
ถ้าตาไหน มะม่วงเล่ย วอยด์ เราจะเล่น ริกิ ไว้คอยตุ๋ย ตอนวอยด์ หยุดเวลา แต่ตัวอื่นก็ชอบนะ แต่เราไม่เล่น สายอิ๊นท์เลย กดอัลติไม่ทัน หลายนิ้วเกินน
ตาสุดท้าย รู้สึกจะก็อดไลค์ เจ้าค่ะ คืนนั้นเล่นเกมส์จนถึง ห้าทุ่มกว่า
ต๊ะเพื่อนมะม่วงก็ชวนไปเล่นไพ่ 55555 เราเลยโทรชวน เพื่อนผู้หญิงคนอื่น ที่เค้านั่งร้านเหล้ากันอยู่ไปด้วย เพราะตอนนั้นเป็นผู้หญิงคนเดียว
สถานที่ก็เป็นห้องมะม่วงเอง เพราะกว้างกว่าของทุกคน
ตอนนั้นก็สนิทกันเป็นกลุ่มใหญ่ เรามีเพื่อนเยอะมากๆแล้ว
พวกเราก็ตั้งวงค่ะ เล่นไพ่แปะหัวกัน เกม์นี้สนุกมาก เราจะเห็นไพ่คนอื่น แต่คนอื่นจะไม่เห็นไพ่เรา แล้วเราต้องเลือกว่าจะสู้หรือจะหมอบ
ถ้าหมอบก็ป๊อด ถ้าสู้ แพ้ต้องหมดแก้ว
เรานี่สายแข็ง …. แน่นอน หมอบตลอด โบราณว่ารู้รักษาตัวรอกเป็นยอดหมวยเล็ก
ส่วนไอ้ม่วงหรอ สงสัยไม่มีดวงพนัน ยกเอาๆ สองสามปีมานี่ ม่วงสู่งขึ้นอีกนิดมั้ง มีหนวดด้วย เวลาลูบมันสากๆ
แหยงๆ
จนหน้าแดง พูดจาไม่รู้เรื่อง มันก็กอดคอเรา
“รอเช็ดอ้วกเลยหัวหน้า คือตอนนี้ เห็นหน้าหัวหน้าเป็นนางฟ้าวิกตอเรียละครับ หัวหน้าครับ”
เราเลยหยิดหัวนมม่วง มันก็ร้องโอ๊ยๆๆๆๆๆๆ สะบัดหน้าสะบัดตา
แก้มก็ไปต้มมาม่าให้หม้อใหญ่มาก เราก็เลยพักกินกันก่อน
ดึกมากๆแล้ว
ก็กะว่ากินเสร็จเล่นเกมส์สุดท้ายก็แยกย้าย
“เล่นเกมส์ปิดตาดีกว่า” มะม่วงบอก คอเมิงจิพับอยู่แล้วน่อออออออ มะม่วงน่อ
“ปิดตาไรดี” พลอยถาม
“ปิดตาหาคู่มั้ย” เราเสนอ ชอบง่ะ ได้ปิดตา แล้วลูบหน้าคนอื่นแล้วทายว่าเป็นใคร
เกมส์นี้ พี่ค่ายพาเล่นตอนไปทะเล ตอนเล่นเราจะเอามือลูบรักแร้ก่อน 555 แล้วค่อยเอาไปลูปหน้าพวกนั้น
ทุกคนก็โอเคนะ เราคู่กับม่วง คือเราต้องจับหน้าทุกคน แล้วทายว่าาใครคือม่วง
หมูๆ เราจับหน้ามันทุกวัน 5555 แชมป์กรายๆ
พอทุกคนปิดตา ด้วยอุปกรณืเท่าที่หาได้
ก็เริ่มเลย
เราก็คว้าๆ วนๆ แอบดูตลอด เพราะจะมองเห็นพื้นแว๊บๆ เวลาปิดตาเราจะปิดแบบแง้มๆไว้ทุกครั้ง 5555 เป็นผู้นำคน ต้องรู้จักลดเลี้ยวบ้าง
เดี๋ยวตายกลางทาง
เราก็เดินมาเห็นละ เท้าไอ้ม่วง %55555
เสร็จตู
เราก็เอื้อมมือ ทำเป็นคว้าผิด คว้าไม่โดน จนมือไปโดนหน้าา เราเลยเอาสองมือประคองหน้ามะม่วงไว้
ทำเป็นลูบๆ เพื่อความเนียน (เราลูบแล้วขมวดคิ้วด้วย เพื่อความสมจริง)
มะม่วงก็เอามือกุมมือเราไว้ มือเราเลยแปะอยู่บนหน้ามะม่วง วินาทีนั้น ลมหายใจของมะม่วงรดอยู่บนหน้าเรา
แล้วมันก็เกิดขึ้นเร้วมาก เรากำลังจะแหกปากบอกว่า เจอแล้ว
แต่มะม่วงเอาปากมาประกบไว้ก่อน
แล้วมือที่กุมเราไว้ ก็เปลี่ยนเป็นโอบเอวดันเข้าหาตัวเอง
เราหายใจไม่ออกเลย กลั้นหายใจ ตาก็ถูกปิดผ้า ปากก็โดนล๊อก
เราไม่มีแรงดิ้นอ่ะ มันหวานๆ แล้วก็หอม
คือยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้อยู่เลย
ตอนแรกตกใจ ตกใจแล้วก็โกรธ พอโกรธแล้วก็ทำอะไรไม่ถุก มันเขินด้วยมั้ง
แล้วมันก็ค้างไว้แบบนั้นไม่ปล่อยจน เราดิ้นขลุกๆ
ก็เรากลั้นหายใจนี่นา
มะม่วงเลยคลายกอออก เราดึงผ้าปิดตาออก คือทุกคน จ้องเรากับมะม่วงอยู่ แล้วยิ้มแบบขำๆ
เราเลยหันหน้าไปหาไอ้ม่วง กำลังจะด่า เลย
มันก็ประกบปากเราอีกรอบนึง
คราวนี้มือไม้อ่อน สมองเบาหวิวนึกอะไรไม่ออกเลย เห็น มูน ไรเดอร์ วิ่งรอบหัว วิ๊งๆ ไปหมด
เพื่อนก็แซวๆๆๆ จนมะม่วงปล่อย
เราอยากจะด่าไอ้ ลิงเผือกนี่จริงๆ
แต่มันกระซิบว่า ” อย่านะ เมาอยู่ เกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ด้วยนะ ”
เรานี่ อารมณ์เขินหายหมด ไอ้เบื้อกกกก ตลอดชีวิตที่ฟูมฟัก เอ็งมา เอ็งหยาบคายมากก เนรคุณ อ๊ากกกกกกกกกกกก
กอดกัน นอนตัก ซบไหล่ มันเพื่อนกันก็ทำได้เว้ย แต่จูบเนี่ย จูบเลยนะ
เอ็งไม่หง ไม่หอม เป้นสัญญานก่อนหรอฟะ
ไอ้กระจั๊ว ข้ามขั้นสุดๆ
เราแบบ น้ำตาคลอ เหมือนโดนลบหลู่ศักดิ์ศรี อายเพื่อนก็อาย
เราโกรธ ไม่ใช่เพราะจูบนะ แต่เราโกรธเพราะหาทางกลบเกลื่อนไม่ได้ นี่มันต่อหน้าคนทั้งแก๊ง
580
เม้นหน้า ก็สุดท้ายแล้วค่ะ
นอกจากนั้นก็เป็นเกร็ดปลีกย่อย ตอนไปเที่ยวด้วยกันตอนปีสอง ปีสาม
จะพยายาม เก็บรายละเอียดให้เยอะที่สุด
มีคนฝากบอกว่า อยากมีลูกเหมือนมะม่วง
ให้ซื้อ วันพีช โรงเรียนลูกผู้ชาย โจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ ให้ลูกอ่าน
เพราะลูกจะอยากเท่เหมือนกระเอก อยากปกป้องคนอื่น
และอยากมีคนสำคัญแค่คนเดียวไปทั้งชีวิต
แต่ไม่ต้องไปใส่ใจกับคำแนะนำนี้มากนะคะ คำแนะนำบ้าๆ จากคนสมองบวมๆ
จขกท.เกิด 2535
721
กำลังพิมพ์นะคะ มันยาวมาก จบแล้ว เลยใช้เวลานิดนึง
สี่ห้าทุ่มค่อยมารเฟรชก็ได้ค่ะ
เราจะได้หลับกันไวๆ ไม่ข้ามวันข้ามคืน
อิหมวยก็พิมพ์เพลินเลยค่าาาาา ย้อนไปอ่านอีกที
คิดถึง ไอ้ตัวเล็กหัวเกรียน ที่เดินตามขบวนแห่หนูน้อยนพมาศ เนอะ มันน่ารักดี
735-4
ไม่ใช่ค่ะ แต่ไม่เป็นไรนะคะ เค้ารอหมวยเล็กมาทั้งชีวิต
หมวยเล็กเลยจะลอง “รอ” บ้าง
แต่ที่แน่ๆ หลายคนเตือนว่า ตั้งกระทู้แบบนี้ ม่วงจะหวั่นไหว
เดี๋ยวเลิกกับแฟนทำไง
หมวยบอกได้คำเดียวค่ะ
หมวยเเล็กเห็นแก่ตัว เรื่องที่อยากจะบอก ก็บอกตรงๆไม่ได้ มีแต่คำหยาบคุยกัน
การพิมพ์แบบนี้ น่าจะบอกความรู้สึกของหมวยเล็กได้ดีกว่า
และม่วงก็สุภาพบุรุษพอ ที่จะไม่ทำร้ายผู้หญิงดีๆคนนึง
เพราะแค่คำพร่ำเพ้อ ของเพื่อนสนิท
ฮี่ๆ อย่าเศร้าไปเลยค่ะ ไม่แนะนำให้อ่านตอนจบนะ เดี๋ยวเศร้าเพิ่ม
927
หลังจากเราพยายามกลบเกลื่อน เพื่อนก็หัวเราะกันใหญ่ บางคนก็แซวๆ ว่าแอบคบกันหรอ
“อย่าแซวมากๆ ตัวเล็กๆนี่เตะหนัก” ไอ้ลิงเผือก ยังทำหน้าระรื่น ยิ้มแป้นเหมือนแม่ซื้อไอติมช็อกโกแล็ตให้งั้นแหล่ะ
เรานี่อยากเอาหน้ามุดส้วมสุดเลย นี่ถ้าไม่สงสารกระโดดเตะปากแระ ปากหมานนนน เจงๆ -(อันนั้นคือพูดเอาเท่ แต่ความจริงเราเขินมาก เราก้มหน้าไม่มองใครเลย มันไม่ใช่ ความรู้สึกไม่ดีนะ แต่สมองประมวลเรวปรื๊ด ว่าต่อไปจะเป็นยังไง ม่วงจูบจริง หรือแค่เมา มันจูบเพราะอยากจูบ หรือเพราะอะไรกันแน่ คือต่อไปจะมองหน้ากันยังไง มันขู่ด้วยว่าไม่รับผิดชอบความปลอดภัย ในใจสับสนสุด)
ต๊ะแซวขึ้นว่า “เฮ้ย หมวยเล็กโดนจูบทีเดียว หมดฤทธิ์เลยหรอจ๊าาา” แล้วเค้าก็หัวเราะกัน
“ดูดิ เมื่อกี๊ยังดี๊ด๊าๆ ตอนนี้เรียบร้อยเชียว สงสัยเวลาปราบพยศหมวยเล็กต้องจูบ” โอมแกล้งเเซว แล้วเดินอ้าแขนมาแกล้งๆจะกอด
มะม่วงเลยเอาแขนคล้องตัวเราไว้
“หมวยเล็กอ่ะของมะม่วง ของมะม่วงคนเดียว” แล้วก็ยิ้ม เอาคางมาไถๆหัว
เรานี่ไอ้นี่ แกจะตีตัวเสมอนายหรอฟะ ลูกหมาน้อยๆในโอวาท มันเติบใหญ่เป็น พญาหมา ไปแล้วหรอเนี่ย
โถ่วว ลูกลิงน้อยๆ อุตส่าฟูมฟัก ทำไมกลับกายเป็นไอ้ลิงเถื่อนลามก โรคจิต วิตฐานแบบนี้
มะม่วงเห็นเราก้มหน้า มันก็เริ่มสร่างๆ จูงมือเราเข้าห้องนอน
“หัวหน้า เงยหน้าซิ” มะม่วงเรียก เราก็ก้ม ก้มดูเล็บทีนตัวเองทำไมก็ไม่รู้ สีลอกหมดละ
“จะเงยหน้าหรือจะ…” ไอ้นี่เข้าใจขู่ เรานี่เงยหน้าจนคอจะหัก
“มองหน้าม่วงได้ไหม”
เราก็ชำเลืองแว๊บ แล้วก็สะบัดสายตาไปทางอื่น หึหึหึ มันง่ายไปที่จะทำให้นางพญาเสือโคร่งแห่งป่า อเมซอนลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงอย่างเรา
ยอมอ่อนข้อเป็นลูกแมวเชื่องๆในกับมือ มะม่วง
“มองดีๆ หมวยเล็ก” ดูมันดิท่านผู้ช๊มมม มันทำเสียงจิ๊จ๊ะ ในลำคอ นั่นเป็นสิ่งที่เราทำได้ แต่มันห้ามทำ ไอ้ลูกกระจ๊อก
ด้วยความสงสาร ไม่ได้กลัวอะไรของเรา เราเลยเงยหน้ามอง มะม่วง
ได้โปรดอย่าทำหน้าจริงจัง เสียวโดนตบ
“หมวยเล็กเห็นอะไร” มะม่วงถาม
“เห็นเอ็งไง” ถามแปลก
“เรา เป็น ใคร” เอ้า มุงกินเหล้าแล้วความจำเสื่อมเลยเรอะ
“ก็เอ็งไง มะม่วงอ่ะ วู้วววว” เราก็ไม่มองหน้า จนมันต้องบีบไหล่เราสองข้าง
“โอเคๆๆ เป็นมะม่วง มะม่วงสุดหล่อ น่าร๊ากกกกก กุ๊งกิ้งงงง”
แล้วปากเราก็ถูกปิด
คราวนี้มันไม่ใช่จูบแบบ ปากแตะปาก มันเป็นจูบแบบ ผู้ใหญ่จูบกัน เราขนลุกทั้งตัว
มันหวานแปลกๆ เหมือนกำลังลอยอยู่ เราเกือบจะเคลิ้ม
แต่มะม่วงก็ถอนริมฝีปากออกไป
“บอกอีกที หมวยเล็กเห็นม่วงเป็นใคร” ม่วงจริงจังไปนะ ให้เวลาเราดื่มด่ำกับรสจูบเมื่อกี๊หน่อยได้มั้ย มันกำลัง เหมือนมีดอกไม้บานในตัวเรานะ สรรพนามเปลี่ยนเชียว
เรากลั้นหายใจ จนนึกได้ว่า ไม่หายใจ กุตายยย
“เป็นมะม่วงไง มะม่วงจะเป็นใคร” เราตอบแบบแมวเชื่องๆตัวนึงเลย
แล้วเราก็โดนจูบอีก คราวนี้มันแรงขึ้น ตอนที่มะม่วงถอนปากออกไป เราชาที่ปากมากๆ เราเริ่มจะยืนไม่อยู่แล้ว ห้องนี่แอร์เปิดเท่าไหร่ฟะ ร้อนตับแตกกกกกกก
“ม่วงให้พูดอีกครั้ง ม่วงเป็นใคร”
หน้าห่างกันฝ่ามือเดียว ไม่น่ากินยำรวมมิตรทะเลมาเลยตรู ภาวะเช่นนนี้ควรมีกลิ่นลาสเบอรี่ในปากหมวยมิใช่เหรอ
“มะม่วงก็เป็นมะม่วงไง” ก่อนที่เราจะโดนแต๊ะอั๋งอีกรอบ สมองใสๆของเราก็ปิ๊งงง “ใช่ๆ มะม่วงของหมวยเล็ก ของหมวยเล็กคนเดียว” แล้วเราก็ยิ้ม แบบที่ทำเวลาจะอ่อย 55555
เป็นยิ้มปรเภท เอาไว้ฮุค ที่เดียว ตายเรียบ ของแบบนี้อยู่ที่การฝึกฝน
มะม่วงมองเราแปบนึง แล้วยิ้มมมม อ๊าาาาา นี่แหล่ะยิ้มแบบปกติที่รอคอย
เราคิดว่ารายตายแน่
ไม่ละลายหายไปกับอากาศก่อนนอนพับที่พื้นนี่แหล่ะ พอมะม่วงยิ้มเสร็จ ก็คลานขึ้นเตียงเลยจ้าาาาาาาา
ปล่อยเราไว้กลางทางงงง ห๊ะ แล้วตรูต้องทำไงต่อฟะ
ถอดเสื้อผ้าเอ็งมั้ย หรืออยู่เฉยๆ รอเอ็งถอด (ล้อเล่นจ้าาา เราเดินออกนอกห้องมาเบย หัวใจนี่รัวยิ่งกว่ากลองสามช่า)
เราออกมาก็ไม่เจอใครแล้ว เลยนอนตรงโซฟา เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย ท่องไว้ๆ มันไม่ใช่แฟน มันเพื่อนสนิท ห้ามเดินเข้าห้องไปนะ เราท่องแบบนี้จนหลับ
ถ้ามีกุญแจเราจะล่ามตัวเองไว้กะโซฟาอ่ะแหล่ะ
932
ผ….
เช้าวันนั้นเราตื่นทีหลัง ตื่นมาเราก็นอนบนตักมะม่วง คือถ้าเอ็งจะโรแมนติก ช่วยนั่งนิ่งๆ มองหน้าเรา
ไม่ใช่กินมาม่า แล้วเส้นตกให้หัวเรา ไอ้ลิงเถื่อน ไอ้มะม่วงแ รดดด ไอ้มะม่วงเขียวไม่น่าเสวย
พอเราลืมตามันก็ถามว่า มาม่ามั้ย เราก็ลุกพรวดเลย ตามสเตปนางเอก ล้วงกางเกงในก่อนว่าอยู่ดีมั้ย
เปล่าหรอก ไม่ได้ทำ แค่ลุกมานั่งอึนๆ ปวดหัว แฮงค์อ่ะ มันก็ดูม้วยปล้ำอยุ่
เสียงน้าติง นี่โบราณมาก ยังเก็บม้วนนี้ไว้อีก บิกโช ปล้ำกับใครนี่แหล่ะ น่าจะสโตนโคล มั้ง
เราก็ดู ระหว่างที่นั่งรอ ทาส หาข้าวให้กิน คือไม่ได้พูดกันเรื่องเมื่อคืนเลย
สองวันผ่านไปก็ไม่พูด
สามวันผ่านไปก็ไม่พูด
แต่พฤติกรรมเปลี่ยน ไปไหนจะต้องจูงมือ …
จะต้องดมผมทุกเช้า
หลังๆเราจะเปลี่ยนยาสระผม อยากให้ดมอ่ะ
เราเปลี่ยนทุกวันเลย ให้มะม่วงดม แล้วทาย ชอบๆ เอาอีกๆ ฮี่ๆ
……..
หลังจากนั้น ความสุขประหลาดๆของเราก้ต้องเปลี่ยนแปลง
มะม่วงต้องไปค่ายของสาขา แล้วต้องฝากมือถือ ไว้ที่พี่รหัส
แต่มะม่วงก็แอบโทรนะ ก็คุยกันแปบๆ
เป็นห้าวันที่เหงามาก ดีที่พลอยอยุ่ด้วย ส่วนพลอยก็เหมือนเดิม คอยแว้งกัดตลอด แต่เราชิน ลึกๆนางก็รักเรานะ แต่แค่ อารมณ์ผู้หญิงหมั่นไส้ผู้หญิง บางเวลาเท่านั้น ไม่ได้เกลียดขั้นจะกินเลือดกินเนื้อ
เรากลับสนิทกับแก้มมากกว่า อยู่คนละหอ แต่คุยกันทุกเรื่องมากกว่า
เราก็มองข้ามเอา ส่วนดีนางก็เยอะน่ะ จดแลกเชอร์ ทำกับข้าว ทำความสะอาด (เบ๊กิติมศักดิ์)
วันที่มะม่วงกลับมา
เราดี๊ด๊ามากกกกกกก ไปไดรผมที่ร้าน 55555 ให้เค้าลอนปลายให้ด้วย ดูผู้หญิงดี
เราก็เนียบนั่งดูทีวี ตอนม่วงกลับมา ไม่สนใจ
“แต่งหน้าหรอ” มะม่วงถาม
“บ้า อยู่ห้องแต่งให้ผีดูอ่ะดิ” เราตอบ
“อ้อ สงสัยผีตัวนั้นชื่อมะม่วง อิจฉามันแฮะ สงสัยคงคิดถึงมันมาก หัวหน้าต้องทำสวยรอรับกลับบ้าน” มันพูดลอยๆ เหมือนพูดว่า วันนี้อากาศดีนะ
“โตขึ้นต้องเป็นภรรยาที่ดีแน่นอน” ยังยังไม่หยุด
คืนนนั้น สงสัยมะม่วงจะเหนื่อยเลยหลับไปเลยที่โซฟา
แต่โทรศัพท์ม่วงดิ สั่นไม่หยุด เรางี้รำคาญมากกกกกก
พอรื้อกระเป๋ากางเกง ก็เจอมิสคอล 16` สาย
แล้วไลน์ ก้เด้งๆๆๆๆๆๆๆๆ
เราเลยถือวิสาสะ เปิดเข้าไปดู อ้อ พี่รหัส ส่งสติ๊กเกอร์รัวๆมา
เกลียดคนนมใหญ่ว่ะ เราเลยส่งสติ๊กเกอร์กลับไป
“ยังไม่นอนอีก” นางพิมพ์มา
“กำลังครับ” เราตอบ สวมวิญญานมะม่วง ชีวิตทาส เป็นของนาย ดังนั้น มือถือทาส ก็มือถือนาย พอหาเหตุผลให้ตัวเอง ก็พิมยาวๆจ้า
“มีไรครับพี่อะตอม”
“ไม่มีไร คิดถึง” แล้วก็ส่งรูปจุ๊บๆมา
เราตอบ “55555” ไป
สักพักไลน์เด้งอีก
“ฝันดีนะ คนปากหวาน”
แล้วก็เป็นรูป มะม่วงใส่เสื้อค่าย จูบปากพี่อะตอม คือมือมันโอบเอวพี่อะตอมอ่ะ เรางี้สั่นไปทั้งตัว
อินังมนุษย์นม อิ นมใหญ่ อิ นมวัว อิ นมปลอมมมม ขอให้นมยานตอนแก่
เราโมโหมากๆ คือไม่ฟังอะไรเลย
เราเดินเข้าห้องนอน แล้วก็หลับเลย
ตอนเช้ามาก็เงียบ แต่ที่ไหนได้ ร้องไห้ทั้งคืนนนนนนนนนนนนนนน
มะม่วงก็งงว่าเราเงียบ ไม่เล่น มันก็จะดมผมเรา เราเลยผลักหน้ามะม่วงออก
“มะม่วง เลิกทำแบบนี้เถอะ หมวยเล็กไม่ชอบ เพื่อนก็คือเพื่อน อย่าล้ำเส้น” เราพูดแบบนี้แล้วก็เดินออกจากห้อง
…………..
มะม่วงไลน์มาเยอะมากๆ เราไม่สนอ่ะ เราร้องไห้ ไม่เข้าใจร้องไรนักหนา พ่อแม่ก็ไม่ใช่
เราพิมพ์กลับไปว่า “อย่าไปทำแบบนี้กับใครนะ มันทุเรศ แล้วก็ หมา มากๆ ข้าเสียใจมาก ที่พยายามรักษาเอ็งไว้ในชีวิต โดยไม่รู้เลยว่า ต้องผลักใครออกจากชีวิตบ้าง” เราพิมพ์ประมาณนี้แหล่ะ
จากนั้น เพื่อนก็มาเล่าให้ฟังว่า มะม่วงไม่มาเรียนเลย ไปอยุ่หอรุ่นพี่ กินเหล้าทุกวัน
แม่มะม่วงโทรมา เราก็บอกว่า เราพอดี ย้ายไปอยู่หอกับแก้ม เลยไม่ค่อยได้เจอ
เราใจแข็งนะ อีกไม่กี่อาทิตย์สอบปลายภาค ตลอดเวลานั้น เราไม่คุยกับมะม่วงเลย
ภาพพี่อะตอมติดตามาก ในเฟสพี่อะตอม มีแต่รูปคู่กับมะม่วง คือเวลาใครไปเม้นว่า แฟนหรอๆ นางก็ตอบสวยๆว่า “ความลับ คิคิ” แม่ะ
คิคิ ป๊าแกดิ เราไม่ได้ตั้งใจส่องนะ เพื่อนพาไปดู เราก็เลย ดูๆไปงั้น
940
แต่พอจบเทอม จะขึ้นปีสี่เทอมหน้า
เราได้รับข้อความสุดท้ายจาก ต๊ะ บอกว่า รุ้ยัง มะม่วงดรอปน๊า ปีหน้า ไปหาประสบการณ์ที่เมกา
เราก็ ห๊ะ ไรฟะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย
เราก็โทรหานะ โทรกี่สายก็ไม่ติด
เรานี่เดินวนเหมือนคนบ้าเลย
แล้วพอไปติดเสียงว่า “ มะม่วงคร๊าบบบบบ ฝากข้อความนะคร๊าฟฟ จะโทรกลับ”
เรานี่พรั่งพรู ทั้งด่า ทั้งร้อง ทั้งแหกปาก เราร้องไห้เหมือนเด็กเลย เสียงดังไม่อายใครเลย อ่ะ
ร้องแบบ กลับมาก่อน คือไม่เป็นไรเรื่องพี่อะตอม แต่แค่กลับมาก่อนได้มั้ย
เรายังไม่ได้บอกเลย ว่าเรารักมะม่วงมากแค่ไหน
เรายังไม่ได้บอกเลยว่าเรามีความสุขแค่ไหน ตอนที่ถูกกอด
เราชอบมากแค่ไหน ตอนที่มะม่วงจุ๊บผม
เราสนุกแค่ไหนตอนเล่นด้วยกัน
เรายังไม่ได้บอก ไม่เคยพูกซักคำว่า มะม่วงสำคัญที่สุดในชีวิตเรา
-……..
เราได้ข่าวมะม่วงอีกทีก็หลายเดือนผ่านมา ไม่อัพอินสตาแกรม ไม่อัพเฟส ทวิตไม่เล่น เราก็ทักแชทไปเยอะมาก มันไม่ได้อ่าน
เราเห็นไอจี มะม่วงอัพรูปคู่กับผู้หญิงคนนึง ดูมีความสุขกันมาก
เราไปกดไลค์แล้วพิมพ์ว่า “สบายดีไหม คิดถึงแก”
แล้วแฟนมะม่วงมาเม้นต่อว่า “Who is she, honey?”
มะม่วงตอบกลับในเม้นว่า “My Old friend, boo”
เรานี่ค้างเลย น้ำตาไหลอีกแล้ว เราแค่คิดถึง
เราเลยลองทักแชตไปดู มะม่วงก็อ่าน
เราก็พิมพ์ไปอีก ถามว่าทำไมไม่ติดต่อกลับมาเลย
หายไปนานมาก สงสัยไล่อ่านแชตทั้งหมดที่เราส่งไปตลอดหลายเดือน
แล้วก้ตอบว่า
“หัวหน้าสบายดีนะ ที่นี่อากาศดีแฮะ แต่พันธุ์แคระอย่างหัวหน้าคงหนาว”
เราก็ยิ้ม เราก็จี้เลย ถามว่ามีแฟนแล้วหรอ ทำไมไปไม่บอก เราเป็นใคร
“หัวหน้าคือคนที่สำคัญมากที่สุดคนนึงในชีวิต ตอนนั้นไม่รุ้คิดอะไร แต่แค่เสียใจเลยขอแม่มาเมกา พออยู่ที่นี่โลกก็กว้างขึ้น ม่วงเจอ…… เราเข้ากันได้ดี ทะเลาะกันบ้าง แต่เค้าก็พาม่วงผ่านช่วงเวลาที่แย่ที่สุดมาได้ ม่วงก็พยายามรักษาเค้าไว้ดีๆ
แต่ม่วงคิดถึงหัวหน้านะ แต่ม่วงอยากลองหยุดจากเส้นทางเดิม แล้วไปเดินในอีกเส้นทางนึงดูบ้าง เพราะตอนนั้นมันเจอทางตัน ม่วงลองให้โอกาสตัวเอง
แต่ม่วงไม่เคยลืมหัวหน้าเลยนะ ยังห่วงเหมือนเดิม จะโตขึ้นบ้างรึเปล่า กินข้าวบ้างมั้ย
ม่วงต้องให่คนอื่น เปลี่ยนรหัสทุกอย่าง เพื่อจะให้ไม่ต้องเข้ามาคุยกับหัว
ม่วงกลัวว่าพลังที่เก็บสะสมไว้ จะหมด แล้วบินกลับมาเร็วจี๋ เพียงเพราะอ่านตัวหนังสือหัวหน้าไม่กี่คำ
หัวใจมันแข็งแรงไม่พอ
ตอนนี้ม่วงกับเค้า ก็กำลังวางแผนอนาคต แค่เผื่อน่ะ เพราะไม่มีใครรู้อนาคตหรอก เหงามากที่ไม่ได้ยินเสียงด่า เสียงตะคอกของหัวหน้า
กลับไปคราวหน้า ม่วงจะพามาเจอ……
ถึงตอนนั้น ก็ดีๆ กับแฟนของลูกน้องไว้นะ อย่าเกเร
รักที่สุด
มะม่วงของหัวหน้า”
…..
ระหว่างที่อ่าน น้ำตาเราไหลไม่หยุดเลย เราร้องไห้เหมือนคนบ้า พูดแค่ว่า ย้อนเวลาได้ไหม ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้ดิ ไม่อยากเป็นแบบนี้
จะเอามมะม่วงกลับมา เราร้องไห้ โวยวาย ตีคอม ปังๆ จนแม่วิ่งเข้ามาดู แม่กอดเราไว้ เราก็ดิ้นๆ บอกไม่เอาแล้ว ไม่เอาแบบนี้
ขอแค่กลับมา เราจะไม่ว่า เราจะไม่ดื้อเลย
เราจะอยู่กับมะม่วงตลอด
ขอแค่มะม่วงกลับมา
เราทำความสะอาดห้องไห้ เราจะขับมอไซให้นั่ง
เราจะให้กินขนมก่อน เหลือแล้วค่อยให้เราก็ได้
เราจะซักผ้าให้ อยากกินอะไร เราจะไปซื้อ เราจะขับรถไปรอหน้าบ้าน
เราจะไปหาทุกครั้งที่อยากเจอ เราจะพาไปดูหนัง เราจะนวดแขนให้
เราจะเดินตาม ขอแค่กลับมา
เรายอม
เราจะเป็นลูกน้องเอง
ขอให้มะม่วงกลับมา
…..
เราร้องไห้แบบนี้อยู่หลายวัน เพราะตอนแรก เราหวังลึกๆว่า เดี๋ยวม่วงหายเครียดก็กลับมาเอง เพราะเราสำคัญกับมะม่วงที่สุด
…
มะม่วงก็กลับมานะ
แต่ไม่ได้กลับมา เป็น “มะม่วงของมวยเล็ก ของหมวยเล็กคนเดียว”
มะม่วงกลับมาเป็น “ลูหน้องของหัวหน้า ลูกน้องที่โตมาด้วยกัน”
อ่านมาจนถึงบันทัดนี้ เราก็ยังร้องไห้อยู่ ยังพิมพ์ไม่จบด้วยซ้ำ ยังไม่ได้เล่าเลย ว่าได้คุยกันอีกตอนไหน
ม่วงจะมาเมื่อไหร่
…..
แต่เรายินดีกับมะม่วง เพื่อนที่เรารักที่สุด ที่ได้มีเส้นทางดีๆเป้นของตัวเอง
ไม่ต้องเดินตามใครไปทั้งชีวิตอีกแล้ว
ขอบคุณนะ ที่เข้ามาอ่าน ไว้เราหยุดร้อง จะมาเล่าเรื่องดีๆให้ฟังอีก
By UtadaVEVO
1122
ฝันดีค่ะ นอนแล้วนะคะ
ขอให้คนที่อ่าน มองคนข้างๆด้วยนะคะ
เราไม่รู้หรอกว่า พรุ่งนี้
ถ้าเราตื่นขึ้นมา..
เค้าจะยังยืนอยู่ที่เดิมหรือเปล่า
..
ชี้แจงเรื่องยายนมยักษ์ที่จูบม่วง
มันเป็นกิจกรรมค่ะ เค้ายุ นางจูบจริง
มีคนถ่ายรูป แล้วนางแคปเล็ก มีนางกะม่วงส่งมา
https://youtu.be/zFihi3KCKCQ
By Benzza Hana
Social