ศบค. ไม่ผ่อนปรนให้ อาบอบนวด ยังปิด นักเที่ยวต้องรอต่อไป ส่วนสถานเสริมความงามควบคุมน้ำหนัก สถานที่สัก-เจาะผิวหนัง ก็ยังห้ามเปิด
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 ในที่ประชุม ศบค. แบ่งเป็น 4 กลุ่มกิจการ/กิจกรรม คือ สีขาว สีเขียว สีเหลือง และสีแดง
โดยวันนี้เสนอให้ปลดล็อกประเภทกิจการ/กิจกรรมกลุ่มสีเขียว คือ กิจการหรือกิจกรรมที่มีกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคไปหลายพื้นที่ และการแพร่เชื้อในสถานที่อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในเกณฑ์สูง
กิจกรรม/กิจการในกลุ่มที่ 2 ที่เปิดเพิ่มคือ
1.กิจการด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต
กลุ่ม ก. คือ การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่เปิดเพิ่มคือร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในอาคารสำนักงาน โรงอาหาร หรือศูนย์อาหารภายในหน่วยงาน ซึ่งจะเปิดขายโดยให้นำไปรับประทานที่อื่น หากเปิดให้ใช้บริการในสถานที่นั้น ก็สามารถทำได้ แต่ต้องจัดระเบียบการเข้าใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรฐานการป้องกันโรคและคำแนะนำของทางราชการ ส่วนที่ยังห้ามคือ การห้ามบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
กลุ่ม ข. คือ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมูนิตี้มอลล์ ให้ปิดบริการเวลา 20.00 น. อนุญาตให้เปิดในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านขายปลีกธุรกิจคอมพิวเตอร์ ร้านหนังสือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฟู้ดคอร์ท คลินิกเวชกรรม สถานทันตกรรม เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ยังปิดต่อไปคือ โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ ตู้เกมส์
กลุ่ม ค. คือ ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งขนาดย่อม/ค้าส่งชุมชน ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด ให้เปิดได้โดยต้องควบคุมการเข้า-ออก พร้อมทั้งจัดให้มีการตรวจวัดอุณภูมิร่างกายผู้ให้และผู้ใช้บริการ
2.กิจกรรมด้านการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ
กลุ่ม ก. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ให้สามารถทำเฉพาะเรือนร่าง ผิวพรรณ และเลเซอร์ ยกเว้นการทำความงามบริเวณใบหน้า เพราะถือว่าเป็นความสุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อ
แต่ที่ยังปิดต่อไป คือ สถานเสริมความงามควบคุมน้ำหนัก สถานที่สัก หรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนใดของร่างกาย สถานประกอบกิจการอาบอบนวด
ส่วนกลุ่ม ข. คือสนามกีฬา เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้งและตามกติกาสากลที่ไม่มีลักษณะของการปะทะกัน โดยจะเล่นเป็นทีม ทีมละไม่เกิน 3 คน และไม่มีผู้ชมการแข่งขัน เช่น แบดมินตัน เซปักตะกร้อ เทเบิ้ลเทนนิส โยคะ ฟันดาบ ยิมนาสติก ปีนผา
ส่วนสถานออกกำลังกาย (ฟิตเนส) ให้เปิดเฉพาะส่วน (ต้องไม่มีการออกกำลังกายแบบรวมกลุ่ม และห้ามใช้เครื่องลู่วิ่งจักรยานปั่น เครื่อง Elliptical หรือเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องใช้การจับหรือสัมผัส)
สระว่ายน้ำสาธารณะ (กลางแจ้ง และในร่ม) สามารถเปิดได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามจำนวนเลนของการว่าย โดยอาจมีอุปกรณ์ขึงกันเลนการว่าย (ความกว้างของเลนไม่น้อยกว่า 7 ฟุต) และจำกัดเวลาใช้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง
ส่วนที่ยังต้องปิดต่อไป คือ สนามมวย โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) สวนน้ำ บึงธรรมชาติ กีฬาทางน้ำ เช่น เซิร์ฟบอร์ด เจ็ตสกี บานานาโบ๊ต และเครื่องกีฬาทางน้ำอื่นๆ
3.กิจกรรมอื่นๆ
กลุ่ม ก. คือ ห้องประชุม ศูนย์ประชุม เปิดเฉพาะให้บริการจัดประชุมขององค์กรหรือหน่วยงาน (Meeting) ลักษณะนั่งประชุมแบบจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งทำให้โรงแรมสามารถออกมาเปิดได้แล้ว
กลุ่ม ข. คือ ห้องสมุดสาธารณะ แกลอรี่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ และ
กลุ่ม ค. คือ กิจการถ่ายภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ส่วนหน้าฉากรวมกลุ่มได้ไม่เกิน 10 คน และทุกแผนกรวมกันได้ไม่เกิน 50 คน
Cr. https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_4136156