ศบค. เผย คลายล็อกโควิด-19 ระยะ 3 เตรียมเปิดกิจการกลุ่มเสี่ยง ลดเวลาเคอร์ฟิว พร้อมบังคับใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” จะมีกิจการไหนบ้าง รอสรุปพรุ่งนี้ (29 พ.ค.)
วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 มีรายงานว่า นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกฯ ศบค. กล่าวถึงการคลายล็อกระยะที่ 3 ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดว่ากิจการใดบ้างที่จะได้รับการผ่อนปรน ซึ่งจะได้ข้อสรุปในที่ประชุม ศบค. พรุ่งนี้ (29 พฤษภาคม)
เบื้องต้นคาดว่า จะมีการอนุมัติกิจการ และกิจกรรมในระยะ 3 ซึ่งบอกได้เป็นกลุ่มกว้าง ๆ ดังนี้
1. ห้างสรรพสินค้า : จะมีการเปิดร้านต่าง ๆ ภายในห้างเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาทำได้ดี ยังไม่มีการติดเชื้อ คนไปใช้บริการก็ใช้ไทยชนะ เช็กอิน-เช็กเอาต์ ถือว่ากิจการนี้มีระบบดูแลอย่างดี
2. กีฬา : เปิดให้นักกีฬา โดยเฉพาะที่เป็นตัวแทนในการแข่งขันระดับต่าง ๆ ได้ซ้อมมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคได้ด้วย
3. เคอร์ฟิว : จะมีการปรับลดเวลาเคอร์ฟิวลงไปอีก แต่จะเป็นเท่าไร ให้รอสรุปพรุ่งนี้ (29 พฤษภาคม)
4. แอปพลิเคชัน ไทยชนะ : ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา การเปิดกิจการกิจกรรมในระยะ 3 ต้องมีการลงทะเบียนในแอปฯ ไทยชนะ และผู้ใช้บริการหากจะเข้าร้านต้องใช้แอปฯ เพื่อทำการเช็กอิน-เช็กเอาต์ ควบคู่ไปด้วยทุกครั้ง
ทั้งนี้ เพราะกิจการกิจกรรมที่จะเปิดในเฟส 3 นั้น มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 ระดับปานกลาง-สูงทั้งสิ้น แต่จะเอาสูงมาก ๆ มาใส่ด้วยหรือไม่ขึ้นกับการประชุม ซึ่งจะพยายามให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญต้องใช้แอปฯ ตัวนี้ เพื่อติดตามดูแลสุขภาพได้ ถ้าจะใช้ก็ต้องช่วยกันในเรื่องการติดตามตรงนี้ด้วย
ส่วนวิธีใช้งานแอปฯ ไทยชนะ ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (เอ็มดีอีเอส) ได้จัดทำระบบให้ผู้ที่ใช้งานสะดวกมากขึ้น โดยการดาวน์โหลดแอปฯ แล้วลงทะเบียน เมื่อจะเข้าร้านใด แค่ใช้โทรศัพท์มือถือสแกน QR Code เพื่อเช็กอิน และเมื่อจะออกจากร้าน แอปฯ นี้จะแจ้งให้กดเช็กเอาต์ออกจากร้าน หรือถ้าใครกลับถึงบ้านแล้วเพิ่งนึกได้ว่าลืมเช็กเอาต์ ก็สามารถกดเช็กเอาต์ในแอปฯ นี้ได้เลย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปจนกว่าจะมีการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ (29 พฤษภาคม) โดยมีนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธานในการประชุม ซึ่งขณะนี้ถือเป็นการตื่นตัวดีของกิจการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นทางเจ้าของกิจการต่าง ๆ ต้องเสนอว่ามีแนวทางหรือวิธีการให้ประชาชนมั่นใจในกิจการที่มีความเสี่ยงมากนั้นอย่างไร มีมาตรการอย่างไรในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ ทั้งหมดเป็นเพียงข่าว