⚫️ ชีวิตของน้องบี
1- กลางเดือนพฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่มูลนิธิแห่งหนึ่งได้พา “น้องบี” เด็กสาววัย 18 ปี ชาว จ.ลำพูน ไปแจ้งความว่าถูก “นายชัย” อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ข่มขืน
2- น้องบีเล่าว่าพ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่น้องอายุ 3 ขวบ จากนั้นแม่ก็ไปมีครอบครัวใหม่ น้องบีจึงต้องไป ๆ มา ๆ อยู่กับพ่อบ้าง อยู่กับแม่บ้าง
3- พ่อของน้องบีเป็นคนอารมณ์ร้าย เคยก่อคดีทำร้ายร่างกายมาหลายครั้ง ที่บ้านพ่ออยู่กัน 2 คน คือพ่อกับย่า โดยย่ามีห้องนอนของตัวเอง ส่วนน้องบีกับพ่อนอนห้องเดียวกัน แต่แยกที่นอน มีตู้เสื้อผ้ากั้นไว้กลางห้อง
4- เมื่อน้องบีอายุ 11 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.4 พ่อได้เริ่มข่มขืนน้องบีเป็นครั้งแรก จากนั้นก็ข่มขืนเรื่อยมา
5- น้องบีพยายามจะไปอยู่กับแม่ แต่ถ้าช่วงไหนน้องไปอยู่กับแม่นาน ๆ พ่อจะโทรไปขู่ว่า ถ้าไม่กลับมาพ่อจะฆ่าแม่กับสามีใหม่ทิ้ง ทำให้น้องบีจำใจกลับไปอยู่กับพ่อ
6- พ่อข่มขืนน้องบีกระทั่งน้องอายุ 13 ปี พ่อก็ติดคุกข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ครั้นพ่อออกจากคุกมาได้ตอนน้องบีอายุ 16 พ่อก็ข่มขืนน้องต่อ
⚫️ เมื่อท้อง พ่อทำแท้งให้
7- ต่อมาน้องบีเกิดตั้งท้องขึ้นมา เมื่ออายุครรภ์ได้ 5-6 เดือน พ่อก็บังคับให้ทำแท้ง โดยครั้งแรกพ่อให้กินยาขับแต่เด็กไม่ออก ครั้งที่สองพ่อไปซื้อยามาให้เหน็บก็ยังไม่ออกอีก
8- พ่อจึงซื้อแอลกอฮอล์มาใส่ไซริงก์ฉีดยา แล้วฉีดเข้าช่องคลอดน้องบี 6 ครั้ง จนแท้งลูกเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2563
9- จากนั้นพ่อนำร่างเด็กที่แท้งไปพันด้ายสายสิญจน์แล้วห่อผ้า ก่อนนำออกจากบ้านไปตอนกลางดึก โดยน้องบีก็ไม่ทราบว่าพ่อพาไปไหน
10- ในที่สุดน้องบีก็ทนไม่ไหว จึงตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิแห่งหนึ่ง มูลินิธิจึงพาน้องไปแจ้งความและนำตัวไปดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจ
11- เมื่อพ่อทราบเรื่องก็โกรธมาก ตระเวนตามหาน้องบีไปทั่ว รวมทั้งโทรศัพท์ไปข่มขู่เจ้าหน้าที่หลายครั้ง
12- พ่อติดต่อขอมอบตัวเมื่อ 19 พฤษภาคม และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่ารู้แค่ว่าลูกสาวหายตัวไปจากบ้านจึงออกตามหา พยายามติดต่อไปที่หน่วยงานต่าง ๆ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ถ้าตนทำจริงคงหนีไปแล้ว ไม่มามอบตัวอย่างนี้
13- สื่อรายงานว่า พ่อของน้องบีรู้ทางหนีทีไล่ในการให้ปากคำ และเรียกร้องหลายสิ่งหลายอย่าง รวมทั้งขอไม่ให้สื่อเข้าร่วมรับฟัง พ่อเคยถูกจับ-ติดคุกมาแล้วหลายครั้ง และเคยร้องเรียนข้าราชการในการสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงต้องระวังเป็นพิเศษ
⚫️ คำกล่าวอ้างของพ่อ
14- พ่ออ้างว่าน้องบีติดยาเสพติด อยากมีแฟน และชอบออกไปเที่ยวกับผู้ชาย เมื่อพ่อห้ามปรามก็ไม่พอใจ ถึงกับไปประกาศกับเพื่อนว่าจะแจ้งจับพ่อเพื่อจะได้มีแฟน
15- ต่อมาพ่อยอมรับว่าน้องบีเคยตั้งท้องจริง แต่ท้องกับคนอื่นไม่ใช่กับพ่อ และน้องบีอยากเอาเด็กออก พ่อจึงช่วยทำแท้งให้ เพราะถ้าพ่อไม่ทำให้ ลูกก็ไปทำที่อื่นอยู่ดี ส่วนที่น้องบีบอกว่าพ่อเอาซากเด็กไปนั้น ตนเอาไปทำพิธีเผาเพื่อให้ลูกสาวสบายใจ
16- พ่อยังพูดดักว่า หากตรวจพบอสุจิของตนในร่างกายของน้องบี ก็แสดงว่าลูกแกล้งพ่อให้ติดคุก ด้วยการเอาอสุจิของพ่อที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าเวลาช่วยตัวเองประสาผู้ชาย แล้วเอาไปสัมผัสตามร่างกายตัวเอง พ่อจะยอมถูกประหารเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง และเพื่อให้ลูกสำนึกได้
17- แต่นายแพทย์ท่านหนึ่งได้ออกมาแย้งว่า สิ่งที่พ่ออ้างนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะอสุจิอยู่นอกร่างกายได้ไม่เกิน 20 นาที หากติดตามเสื้อผ้าอายุก็ยิ่งลดลง ไม่สามารถไปผสมกับไข่จนตั้งท้องได้ หากพบอสุจิของพ่อในช่องคลอดของน้องบีจริงก็มีเพียงทางเดียว คือน้องถูกพ่อกระทำ
18- ต่อมาพ่อของน้องบียังอ้างอีกว่า น้องบีอาจไม่ใช่ลูกของตน โดยเล่าว่าตอนนั้นตนติดคุก 4 ปี ภรรยากำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน แต่เมื่อตนพ้นโทษออกมากลับพบว่าน้องบีเพิ่งอายุ 2 ขวบ จึงสงสัยว่าภรรยาอาจแท้งลูกของตน แล้วไปท้องกับคนอื่นแทน
19- พ่อบอกว่าหลังจากนั้นจึงไปถามหมอว่า ตนกับภรรยามีเลือดกรุ๊ปโอ เป็นไปได้หรือไม่ที่ลูกจะมีเลือดกรุ๊ปบีอย่างน้องบี ซึ่งหมอบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ต่อมาตนได้บอกเรื่องนี้กับน้องบี เมื่อทราบเรื่องกรุ๊ปเลือดน้องบีก็มีท่าทีเปลี่ยนไป
⚫️ ย่ามั่นใจ ลูกชายไม่ได้ทำ
20- ส่วนย่าของน้องบีก็ไม่เชื่อว่าลูกชายจะข่มขืนลูกตัวเอง เพราะลูกชายเป็นคนเงียบขรึม ไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ และย่าก็ไม่เคยได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากห้องนอน
21- ย่าเชื่อว่าหลานสาวคงโกรธพ่อ เพราะพ่อชอบดุที่น้องบีคุยโทรศัพท์เสียงดัง จึงกุเรื่องเพื่อไปแจ้งความจับพ่อ ถ้าน้องบีท้องกับพ่อจริง ทำไมไม่เก็บเด็กในท้องไว้เป็นหลักฐานมัดตัวพ่อ
22- ในส่วนของน้องบี เจ้าหน้าที่บอกว่าน้องยังมีอาการหวาดผวาต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ เวลาใครเปิดประตูเข้ามาจะมีอาการตกใจกลัว