เนื่องจากกรณี กลุ่มศิลปิน นำโดยช่างต้อง หัวหน้าทีมจากมหาวิทยาราชภัฎสวนสุนันทา มารับงานเขียนภาพฝาผนังโบสถ์ วัดหนองเต่า หมู่ 7 ต อุทัยเก่า อ หนองฉาง จ อุทัยธานี แล้วหนึ่งในทีมวาด ได้วาดภาพ สิตางศ์ ส้มหยุด เน็ตไอดอลแทรกเข้าไปในภาพวาด ตามตำนานพุทธประวัติในตอนที่มีผู้คน ไปรอรับเสด็จพระพุทธเจ้า
ซึ่ง มีเนื้อหาประมาณว่า พระพุทธองค์ ลงมาโปรดทั้งสามโลก คือ สวรรค์ โลกมนุษย์ และนรกภูมิ โดยในภาพวาดได้แอบสอดแทรกภาพของสิตางศุ์ บัวทอง ชี้ผลส้ม เข้าไว้ในภาพจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์อย่างแนบเนียน แล้วนำโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย จนมีชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ อย่างกว้างขวาง ถึงความเหมาะสมของภาพ
ต่อมาผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุทัยธานี มาตรวจสอบและสั่งให้ลบภาพดังกล่าว เนื่องจากไม่เหมาะสม แต่เจ้าอาวาสวัดมีความเห็นว่า จะไม่ลบภาพนี้
สำหรับ ความคืบหน้า เมื่อเวลา 15:00 น. วันที่ 3 มิถุนายน ที่วัดหนองเต่า สิตางศ์ บัวทอง อายุ 58 ปี เน็ตไอดอลดัง เดินทางมาทำบุญและชมภาพวาดดังกล่าว โดยพบกับพระอธิการ สมชาย เตชะพะโล เจ้าอาวาสวัดหนองเต่า และนายจรัณภัตษญ์ แก้วอ่ำ อายุ 30 ปี จิตกรผู้วาดภาพ
สิตางศ์ เผยว่า การเดินทางมาที่วัดค่อยข้างมีความลำบากมากเลย ซึ่งตนไปหลงกับวัดหนองเต่าในตัวเมือง แต่พอมาถึงวัดนี้ก็รู้สึกได้ว่าเป็นวัดเล็กๆ เป็นโบสถ์เล็กๆ จึงทำให้ตนเปลี่ยนใจ ไม่อยากให้แก้ไขภาพนี้ หรือลบภาพนี้ เพราะภาพนี้เป็นเพียงภาพที่ชี้ส้ม ทำให้พุทธศาสนิกชนจากจังหวัดอื่นมามองเห็นวัดเล็กๆ วัดนี้
“ฉันไม่อยากให้มีการลบภาพนี้เลย เพราะพวกเขามาเพื่อที่จะมาดูภาพนี้ ฉันไม่อยากให้มีการทำร้ายความรู้สึกของคนที่นี้”
สิตางศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการจะแก้ไขภาพให้เป็นการไหว้นั้น ตนไม่มีความคิดเห็นใดๆ อยากให้ดูที่ผลงาน ถ้าเปลี่ยนเป็นภาพไหว้ ก็คงไม่มีคนมาดู โดยเฉพาะวัดนี้ ไม่ได้มีจุดขายอะไร อยากให้ผู้มีอำนาจเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ขอให้หลุดออกมาจากกรอบเดิมๆ ฟังเสียงคนรุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ ได้สร้างความสุขให้กับชุมชน ที่เป็นชุมชนเล็กๆ สิ่งนี้เป็นความชุมฉ่ำ เหมือนดอกไม้เล็กๆ ทุกคนจะดีใจที่มีคนมาทำบุญที่วัดนี้มากขึ้น
เปิดกรอบเปิดกะลา เปิดอะไรที่คุณตีกรอบให้ตัวเองอยู่ เพราะเราหัวหงอก ฉันอายุ 58 จะ 60 ปีแล้ว คนที่ดูแลคำสั่งก็รุ่นฉัน เราแก่ๆ กันแล้ว ปล่อยให้คนรุ่นใหม่มาบริหาร ทะนุบำรุงศาสนาได้ไหม แนวคิดของคนรุ่นใหม่สามารถที่จะแลกเปลี่ยนพุทธศาสนิกชน โดยที่วัดนี้ไม่ได้มีจุดขายอะไร ในเมื่อสร้างความสุขให้ผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน เป็นชุมชนเล็กๆ ฉันยืนยันได้
ตอนแรกฉันไม่สนใจอะไรนะ ฉันจะมากราบเจ้าอาวาสมาขอโทษ แต่ตอนนี้ฉันไม่ยอมให้มาแก้ไขแล้วนะ ติดต่อฉันได้หน้าเฟซบุ๊ก สิตางศุ์ บัวทอง ภาษาอังกฤษไม่จริง เพราะฉันเป็นคนไทย แปลว่าอิสระ เราไม่ยอมเป็นทาสคำสั่ง ที่ไม่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในอนาคต
หลังจากนี้ฉันจะเชิญชวนแฟนคลับ ในกลุ่มแม่ค้าออนไลน์ ให้มาร่วมกันทำบุญให้วัดนี้ และฉันจะหาเงินทุนมาลงวัดนี้ด้วย แต่กรุณาอย่างมาทำร้ายความรู้สึกแค่ภาพเล็กๆ ภาพนี้เลย อย่ามาเอาชนะด้วยเหตุผลที่ฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นเรื่องโกหกเลย”
ด้าน นายจรัณภัตษญ์ เปิดเผยว่า ภาพคุณสิตางศ์ ที่มาปรากฏในขณะที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาจากชั้นดาวดึงส์ จุดเริ่มต้นมาจากขณะที่ตนวาดภาพนี้ วลีส้มหยุดของคุณสิตางศุ์กำลังโด่งดัง จึงเกิดเป็นความกลมกล่อมในการนำคุณสิตางศ์มาอยู่ในภาพนี้ เพราะตนชื่นชอบการใช้ชีวิตของคุณสิตางศุ์มาตั้งแต่เข้าวงการแล้ว เพราะเธอแข็งแกร่ง และไม่ค่อยแคร์อะไรในกระแสลบ
ขณะที่ตนกำลังวาดภาพนี้อยู่คุณสิตางศ์ก็กำลังมีกระแสความนิยมในโลกโซเชียล ประกอบกับวลีเด็ดที่เธอชอบพูดประจำว่า เธอมีอภินิหาร ทำให้ส้มหยุดได้โดยไม่มีที่กั้น เลยคิดว่าถ้านำวลีนี้แปลเป็นภาพวาด เพื่อให้เกิดการจดจำแซกอยู่ในพุทธประวัติเล็กๆ
ส่วนกระแสด้านลบ หรือ ความไม่เหมาะสม มองว่าเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ตนเป็นเพียงแค่ศิลปินหน้าใหม่คนหนึ่ง เพียงแค่ทำงานถ่ายทอดเรื่องราวเพื่อรับใช้ศิลปะตรงๆ ซื่อๆ เป็นความรู้สึกและความประทับใจของตนลงบนกำแพง แค่นั้นเอง โดยที่ตนไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง หรือ เจตนาร้ายที่จะบิดเบือนพระพุทธศาสนา
ด้าน พระอธิการ เปิดเผยว่า เป็นภาพที่ช่างภาพได้วาดภาพพระพุทธเจ้าลงมาจากชั้นดาวดึงส์ ในส่วนของที่ช่างวาดรูปเน็ตไอดอล จนเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียล ซึ่งอาตมาได้ไปดูภาพมา รู้สึกว่าภาพไม่ได้เสียหายอะไร ในภาพที่ชี้ส้ม อาจความหมายว่าช่วยเก็บส้มให้หน่อยก็เป็นได้
ส่วนกระแสหลังจากภาพนี้วาดเสร็จ ก็ถือว่าดี ทำให้สถานการณ์ของวัดดีขึ้น มีเด็กวัยรุ่นเข้าวัดมากขึ้น ซึ่งญาติโยมก็สนับสนุนในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ซึ่งอาตมาไม่อยากให้ลบ เพราะไม่ได้เป็นภาพโป๊เปลือยอะไร คนในภาพก็แค่ชี้นิ้วว่าส้มหลุดไปนะ ในความหมาย จะให้เพื่อนหยิบส้มก็เป็นได้