ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 63 เวลา 18.30 น. ร.ต.ท.เกรียงไกร แสวงศรี รองสว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุด.ช.วัย 7 ขวบ ผูกคอเสียชีวิตกับราวผ้าม่านหน้าต่าง ในบ้านเลขที่ 100/12 ซ.ธงชัย ม.4 บ้านหนองขาม ต.หนองบัว จ.อุดรธานี จึงรุดตรวจสอบพร้อม ร.ต.อ.บรรเทิง ทัพโยทา รอง สว.สส. ร.ต.อ.วิทยา ศิริเทพ รอง สวป.,แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบร่าง เด็กชายจิรภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 นอนหงายเสียชีวิตอยู่ประตูหน้าบ้าน ข้างศพพบนายเสรี (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ซึงเป็นพ่อของผู้ตายนั่ง ร้องไห้คร่ำครวญ ปานจะขาดใจ
โดยมีญาติและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวมาช่วยพูดปลอบใจ จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้ายและเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจด้วยการผูกคอ เนื่องจาก บริเวณลำคอพบรอยเชือกอย่างชัดเจน
ก่อนที่นายเสรี และญาติ จะนำตำรวจ แพทย์เวร อาสากู้ภัยเข้าตรวจสอบภายในบ้านบริเวณที่ น้องถูกเชือกธงชาติแบบผ้าสีแดงที่มีลักษณะผูกมัด 3 ถึง 4 ปม และปมสุดท้ายถูกมัดเป็นบ่วง แขวนอยู่บนราวผ้าม่านหน้าต่าง ข้างเตียงนอนของย่าที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์และมะเร็ง บริเวณหัวเตียงพบตู้ชั้นวางของล้ม ข้าวของกระจัดกระจายและพบโรลเลอร์เบลด สีแดง-ดำ วางอยู่ที่พื้น จนท.ตำรวจจึงถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายเสรี ให้การว่า ตนมีลูกชายคนเดียว ส่วนภรรยาเดินทางไปทำงานที่กทม. และบ้านหลังนี้อาศัยอยู่เพียง 4 คน มีตนเอง ลูกชาย แม่ และป้าที่พิการหูหนวก ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนพาแม่ที่ป่วยนั่งรถเข็นไปนั่งเล่นที่สวนย่อมหน้าบ้าน เนื่องจาก เย็นวันนี้อากาศดีและบอกให้ลูกชายมาเล่นโรลเลอร์เบลดที่หน้าบ้าน หลังจากลูกชายทำการบ้านเสร็จ
ส่วนป้าทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน ผ่านไปสักพัก ลูกชายเข้าไปในบ้าน ตนกับแม่ก็ยังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ผ่านไปราว 15 นาที เห็นว่าใกล้มืดค่ำ และมียุงชุม ประกอบกับแม่อยากเข้าห้องน้ำ จึงรีบเข็นรถพาแม่เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ พบลูกชายแขวนคอกับราวผ้าม่านบนหัวเตียงนอนผู้ป่วยของแม่ จึงรีบวิ่งเข้าไปนำร่างลูกชายลงมาปั๊มหัวใจช่วยเหลือ
พร้อมกับถอดโรลเลอร์เบลด ออกจากเท้าทั้งสองข้างของลูกชาย และได้ปั๊มหัวใจผายปอดลูกอยู่นานหลายนาที แต่ไม่มีอาการตอบสนอง จึงโทรศัพท์แจ้ง 1669 มาช่วยเหลือชีวิตลูกชายแต่ก็สายไปเสียแล้ว
นายเสรี ให้การต่อว่า หากป้าตนซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าลูกชายหูไม่หนวก คงได้ยินเสียงหลานชายที่ดิ้นจนชั้นวางของล้มและคงช่วยเหลือชีวิตลูกชายได้ทัน รู้สึกช็อคกับการสูญเสียครั้งนี้ลูกชายเป็นเด็กฉลาดเรียนหนังสือเก่ง เป็นที่รักใคร่ของญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ทุกวันหลังจัดหาอาหารให้แม่กินและเข้านอน ตนจะพาลูกชายปั่นจักรยานยนต์เล่นที่สวนสาธารณะหนองตะไก้
แต่วันนี้ไม่ได้พาลูกชายไป เพาะลูกชายอยากให้ตนพาไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นคำพูดและรับปากลูกครั้งสุดท้าย และรู้สึกผิดมากที่ดูแลลูกไม่ดี หากแม่เขารู้คงไม่ให้อภัยตน
“ลูกชายผมมีนิสัยชอบเล่นชักเชือกธงชาติ เนื่องจาก เขาเคยเป็นหัวหน้าระดับชั้นอนุบาล เป็นตัวแทนทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน ชอบนำเชือกผูกธงชาติมาผูกและแขวนไว้ตามราวผ้าม่านหน้าต่างในบ้าน ราวตากผ้าหลังบ้าน และต้นไม้หน้าบ้าน ที่ผ่านมา ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ลูกคงทำไปตามประสาของเด็กที่เคยทำมา แต่ครั้งนี้ที่เท้าสองข้างลูกชายมีโรลเลอร์เบลด ที่ผมซื้อให้เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา
ทำให้ลูกตนพลาดลื่นไถลคอไปเกี่ยวกับเชือกที่ผูกปมเป็นบ่วงไว้ เพราะลูกชายยังเล่น โรลเลอร์เบลด ไม่ชำนาญ จนทำให้ลูกชายตนเสียชีวิตโดยที่ผมไม่รู้ตัว และไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้าเลย”
ร.ต.ท.เกรียงไกร แสวงศรี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนร่วมกับจนท.ส่วนเกี่ยวข้อง ตรวจสอบสภาพศพในที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นสันนิฐานว่า เด็กเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ ด้วยการแขวนคอ เพราะตามร่างกายไม่มีร่องรอยการต่อและถูกทำร้าย
คาดเป็นอุบัติเหตุจากพฤติกรรมของเด็ก ที่ชอบเล่นเชือกชักธงชาติตามจุดต่างๆของบ้าน ที่ยังพบเชือกอยู่ที่ราวผ้าม่านหน้าต่างหน้าบ้าน และมีลักษณะเหมือนกันกับจุดที่น้องเสียชีวิต ซึ่งญาติก็ไม่ติดใจในสาเหตุ และเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง
อย่างไรก็ตาม ทางเราจะนำศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดที่รพ.ศูนย์อุดร พร้อมประสานชุดพิสูจน์หลักฐานมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
ส่วนการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของน้องพบว่ามีการเปิดยูทุบดูวิธีการสอนเล่นเกมส์ปกติที่ไม่มีความรุนแรง แต่มีการเปิดดูบทลงโทษกับผู้แพ้ในการเล่นเกมที่เล่นกันเป็นกลุ่ม และมีบทลงโทษกับผู้แพ้ที่แปลกพิสดาร ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเหตุจูงใจในพฤติกรรมเรียนแบบแต่อย่างใด
ขอบคุณที่มา ข่าวสด