29 มิถุนายน 63 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกประเทศในโลกกำลังเผชิญกับพายุลูกใหม่จากปัญหาเศรษฐกิจ หลังcovid-19 แพร่ระบาด ซึ่งหากรัฐไม่ได้มีการตั้งรับมือกับปัญหาจะเหนื่อยกันหมด
โดยนายสมคิดได้ยกตัวอย่างของประเทศสิงคโปร์ ที่ประกาศยุบสภา ก่อนที่รัฐบาลจะหมดวาระบริหารประเทศ เพื่อจัดการเลือกตั้งให้ได้รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมาบริหารประเทศในช่วงที่ต้องรับมือกับcovid19 และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
นายสมคิด ยังกล่าวด้วยว่า พายุวิกฤตปีพ.ศ.2540 ได้ผ่านมาแล้ว ซึ่งผู้ที่ได้รับกระทบก่อนคือ SME เพราะตัวเล็กเงินน้อย แต่มีการจ้างงานพอสมควร แต่ปกติ SME ได้รับสินเชื่อยากมาก
ฉะนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องดูแลตั้งแต่ต้นทาง ถ้าไม่ดูแลตรงนี้ แต่ไปดูแลตอนปลายทางSMEจะไปกันหมด คนตกงาน ก็ต้องเยียวยาเพิ่ม ฉะนั้นจะต้องไม่โฟกัสที่เยียวยา แต่ต้องโฟกัสว่า ทำอย่างไรให้อยู่รอดได้ มีการจ้างงานต่อไป
นายสมคิด กล่าวว่า รู้กันดีว่าเมื่อSMEทุนน้อย ธนาคารส่วนใหญ่ จะโฟกัสธุรกิจใหญ่ เมื่อเศรษฐกิจลงลึกมาเท่าไหร่ยิ่งไม่กล้าปล่อยสินเชื่อมากเท่านั้น เพราะกลัวธนาคารจะเป็นปัญหา ทั้งที่หนี้เสียไม่ได้มาจากความผิดของนักธุรกิจ
แต่เป็นเพราะไม่สามารถช่วยเขาตั้งแต่ต้น ถ้ายังเป็นอย่างนี้ ไม่ช่วยแต่ต้นทุกธนาคารจะลำบาก เพราะไม่มีทางที่จะอุ้มชูด้วยสินเชื่อลูกค้าที่มี ถ้าเศรษฐกิจข้างนอกมีปัญหา ทุกอย่างจะพังกันทั้งหมด