บัตรคนจน เดือนสิงหาคม 63 หยุดจ่ายเงิน
วันนี้ (31 กรกฎาคม 63) มีรายงานว่า กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนก.ค.63 ที่ผ่านมา ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์กรณี เงินผู้สูงอายุเพื่อการยังชีพเพิ่มเติม จำนวน 50-100 บาทต่อ/เดือน
เนื่องจาก กองทุนผู้สูงอายุได้จัดสรรเงินผู้สูงอายุเพื่อการยังชีพเพิ่มเติม สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ งวดวันที่ 15 มิ.ย. 63 เป็นงวดสุดท้าย และหลังจากนั้นก็ไม่ได้จัดสรรเงินให้อีก โดยล่าสุดยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการจัดสรรเงินเพิ่มเติมหรือไม่ และจะจัดสรรเมื่อใด โดยทั้งหมดขึ้นอยู่กับกองทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กองทุนผู้สูงอายุมีงบประมาณไม่เพียงพอ กรมกิจการผู้สูงอายุจึงได้ประสานสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลังขอจัดสรรงบกลางประจำปี 63 จำนวน 689 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเงินผู้สูงอายุเพื่อการยังชีพเพิ่มเติม สำหรับผู้สูงอายุที่มีรๅยได้น้อยตามโครงการบัตรสวัสดิกๅรแห่งรัฐเกือบ 5 ล้านราย จนถึงเดือนกันยายน 63
แต่ล่าสุด กองทุนผู้สูงอายุได้หยุดการจัดสรรเงินผู้สูงอายุฯ สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้ว จึงเป็นไปได้ว่า กองทุนผู้สูงอายุจะไม่ได้รับการจัดสรรงบกลางตามที่ร้องขอ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินผู้สูงอายุเพื่อการยังชีพเพิ่มเติม คืออะไร?
ตอบ เงินผู้สูงอายุเพื่อการยังชีพเพิ่มเติม เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับวงเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 50 ถึง 100 บาทต่อเดือน ตามเกณฑ์รายได้ และสามารถกดออกมาเป็นเงินสดเพื่อนำไปใช้ได้ โดยเงินจะโอนเข้าบัตรฯ ทุกวันที่ 15 ของเดือน
ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 0 ถึง 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 100 บาท
ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 30,001 ถึง 100,000 บาทต่อปี จะได้เงินช่วยเหลือเดือนละ 50 บาท
บัตรคนจน สิงหาคม 2563 เหลือ 7 รายการ
จากกรณีที่กองทุนผู้สูงอายุไม่ได้จัดสรรเงินผู้สูงอายุเพื่อการยังชีพเพิ่มเติมแล้ว ส่งผลให้สิทธิประโยชน์ของ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน รอบถัดไปในเดือน สิงหาคม 63 จะเหลืออยู่ 7 รายการ ดังนี้
วันที่ 1 สิงหาคม 63
1.ค่าเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ
ค่ารถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รถเมล์ ขสมก.) และรถไฟฟ้า 500 บาท/คน/เดือน ซึ่งได้รับเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนในกรุงเทพฯ และ 6 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม
ค่ารถโดยสาร บขส. (รถทัวร์ บขส.) 500 บาทต่อคนต่อเดือน ผู้ถือบัตรฯ จะได้รับสิทธิ์ทุกคนและใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด โดยนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรประชาชนไปขอรับสิทธิ์ได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วโดยสาร บขส.
ค่ารถไฟ 500 บาท/คน/เดือน ผู้ถือบัตรฯ จะได้รับสิทธิ์ทุกคนและใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนด โดยสามารถนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรประชาชน ไปขอรับสิทธิ์ได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟ
2.วงเงินช่วยเหลือค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัสดุการเกษตร ใน ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่นๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับวงเงินทุกคนและใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดและไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้
- ผู้ถือบัตรฯ ที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับวงเงิน 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- ผู้ถือบัตรฯ ที่มีรายได้ระหว่าง 30,000 ถึง 100,000 บาทต่อปี ได้รับวงเงิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน
3.ส่วนลดค่าซื้อก๊าซแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน โดยผู้ถือบัตรฯ จะได้รับทุกคน และสามารถใช้สิทธิ์ได้ด้วยการนำบัตรฯ ไปซื้อก๊าซกับร้านค้าที่ร่วมรายการกับกระทรวงพลังงาน ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในระยะเวลา 3 เดือน แต่ต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดและไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้
4.ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ปตท. 100 บาท/คน/เดือน เพื่อใช้ในร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ โดยได้รับสิทธิ์เฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ประกอบอาชีพหาบเร่หรือแผงลอยไว้ก่อนหน้านี้
วันที่ 15 สิงหาคม 63
5.คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% สำหรับผู้ถือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เติมเงินเข้าบัตรฯ และใช้เงินจากบัตรฯ รูดซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าเอกชนอื่น ๆ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านเครื่อง EDC ในเดือนกรกฎาคม 2563
โดยรัฐจะคืนภาษี VAT 5% ผ่านกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ (E-Money) ของบัตรฯ ซึ่งประชาชนสามารถกดออกมาเป็นเงินสด หรือรูดซื้อของตามร้านธงฟ้าและร้านค้าอื่น ๆ ที่ร่วมโครงการได้ แต่ยอดเงินคืนสูงสุดจะไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน เช่น
- ใช้จ่ายผ่านบัตรคนจน 100 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ 5 บาท
- ใช้จ่ายผ่านบัตรคนจน 1,000 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ 50 บาท
- ใช้จ่ายผ่านบัตรคนจน 5,000 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ 250 บาท
- ใช้จ่ายผ่านบัตรคนจน 10,000 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ 500 บาท
18 สิงหาคม 2563
6.ค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้ได้รับสิทธิ์คือ ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์เดือนละ 100 บาท และลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อบิลค่าน้ำมา ผู้ได้สิทธิ์ต้องสำรองจ่ายเงินสดไปก่อน จากนั้นระบบจะทำการบันทึกข้อมูล และ ทำการโอนเงินสดให้กลับเข้าบัตรฯ ในวันที่ 18 สิงหาคม 63 และสามารถนำบัตรฯ มากดเงินสดใช้ได้เลย
7.ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ครัวเรือนที่ได้รับสิทธิ์คือ ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดเดือนละ 230 บาท และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อบิลค่าไฟฟ้ามา ต้องสำรองจ่ายเงินสดไปก่อน จากนั้นระบบจะทำการบันทึกข้อมูล และ ทำการโอนเงินสดให้กลับเข้าบัตรในวันที่ 18 สิงหาคม 63 และสามารถนำบัตรมาใช้กดเงินสดได้เลย
ขอบคุณ ไทยรัฐ
Social