เหยื่อระเบิดเลบานอน พุ่งแตะ 100 ศพ – นายกฯ ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ

ระเบิดเลบานอน ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 100 ศพแล้ว คนเจ็บเกือบครึ่งหมื่นยังอัดแน่น รพ. ด้านนายกฯ ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ ขณะที่ประเทศเผชิญวิกฤตรอบด้าน

          วันที่ 5 สิงหาคม 2563 สำนักข่าวอัลจาซีรา มีรายงานความคืบหน้าจากเหตุระเบิดเลบานอน ที่สร้างความเสียหายหนักราวภาพมหันตภัยวันสิ้นโลก อาคารบ้านเรือนในรัศมีการระเบิดพังราบเป็นหน้ากลอง แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงเกาะไซปรัสที่อยู่ห่างออกไป 240 กิโลเมตร โดยสาเหตุเกิดจากสารแอมโมเนียมไนเตรต ขนาด 2,750 ตัน ที่ถูกเก็บไว้ในโกดังที่ท่าเรือ

          ล่าสุด จอร์จ เคตทาเนห์ หัวหน้ากาชาดของเลบานอน เปิดเผยว่าขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดดังกล่าว พุ่งขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 100 ศพแล้ว ขณะที่มีผู้บาดเจ็บกว่า 4,000 คน อย่างไรก็ตามคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อง ๆ ซึ่งทางกาชาดกำลังเร่งประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้จัดหาโรงเก็บศพมารองรับผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนมากจนล้นโรงพยาบาล

 ขณะเดียวกัน ฮัสซัน ดิยาบ นายกรัฐมนตรีของเลบานอน ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ ผ่านการปราศรัยสั้น ๆ ทางโทรทัศน์ โดยเขาขอให้ทุกประเทศและมิตรของเลบานอน หยิบยื่นความช่วยเหลือมายังประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ ซึ่งกำลังเผชิญกับภัยพิบัติอย่างแท้จริง

          พร้อมกันนั้น เขายังย้ำคำมั่นสัญญาว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง ที่รับผิดชอบเหตุการณ์ระเบิดเลบานอนจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เกิดขึ้น และชี้ว่าการที่สารเคมีอันตรายปริมาณมหาศาล ถูกเก็บไว้ในโกดังที่ท่าเรือมานานถึง 6 ปี โดยปราศจากมาตรการด้านความปลอดภัยใด ๆ ถือเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้

   อย่างไรก็ดี พบว่าทางสหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ อิหร่าน หรือแม้แต่ประเทศคู่แข่งอย่างอิสราเอล ได้เสนอความช่วยเหลือ พร้อมให้การสนับสนุนแก่เลบานอนในช่วงเวลาที่กำลังเผชิญวิกฤตรอบด้านนี้

          ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุหายนะดังกล่าว กรุงเบรุตซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกขานเป็น ปารีสแห่งตะวันออกกลาง ก็มีอันต้องจมอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังและความเสียหายที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพยายามเก็บกู้ร่างของผู้เสียชีวิตและรับมือกับควันที่ยังคุกรุ่นในพื้นที่ สถานพยาบาลทั่วเมืองต้องรับศึกหนักในการจัดการกับผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ในขณะที่ประเทศยังจมอยู่ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและการระบาดของโรคโควิด 19

ขอบคุณข้อมูลจาก
aljazeera.com, dailymail.co.uk

หอยนางรม